น้องโฟล์คนักศึกษาปี 1 ผู้เสียหาย เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน เล่าว่า ในกิจกรรมรับน้องเมื่อช่วงต.ค. รุ่นพี่ให้ก้มหน้าและชกต่อยเข้าที่แผ่นหลังหลายครั้ง โดยให้เหตุผลของการทำร้ายร่างกายว่าฝึกความอดทน
ม.แม่โจ้ โร่ชี้แจง หลังแม่ร้องลูกชายถูกรุ่นพี่รับน้องโหด ชก-ทุบหลัง
เหตุที่เกิดขึ้นยืนยันจะให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะไม่คิดมาก่อนว่าจะถูกรุ่นพี่ในมหาวิทยาลัยที่ใฝ่ฝันจะเข้าเรียนละเมิดสิทธิด้วยการทำร้ายร่างกาย และ ยืนยันว่าได้ลาออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว เพราะรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น
รุ่นพี่นศ.แม่โจ้ให้ปากคำ ปฏิเสธลงมือ โยนเป็นรุ่นพี่คณะอื่น
ขณะที่รุ่นพี่ ที่ผู้เสียหายระบุตัว คือ นายโจ้ ปี 2 และ นายยุทธ ปี 3 วันนี้ 4 พ.ย. 2562 เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.แม่โจ้ จ.เชียงใหม่ โดยให้การภาคเสธ ยอมรับว่าอยู่ในกลุ่มรุ่นพี่ในกิจกรรมรับน้องนอกสถานที่ แต่ปฏิเสธไม่ได้เป็นคนลงมือทำร้ายรุ่นน้อง
หนึ่งในรุ่นพี่ อ้างว่า ไม่ได้ลงมือทำร้ายน้องและไม่มีการรับน้องแยกของคณะ ซึ่งคืนเกิดเหตุเป็นการรับน้องรวมทุกคณะ มีรุ่น รุ่นพี่พารุ่นน้องของตัวเองไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในมหาวิทยาลัยในตอนช่วงกลางคืน มีการเดินเรียกแถวกันไป
โดยมีรุ่นพี่หลายร้อยคนเดินตามไปด้วย อาจเป็นไปได้ว่ารุ่นพี่คณะอื่นเป็นคนทำร้าย เพราะน้องผู้เสียหายหน้าตาดีแถมยังเป็นเดือนคณะ อาจมีรุ่นพี่นอกคณะหมั่นไส้ ลงมือทำร้ายได้
ผช.อธิการบดีแม่โจ้ ยันไม่นิ่งนอนใจ หากผิดมีบทลงโทษหนัก
ส่วนทางมหาวิทยาลัย ดร.สุดเขต สกุลทอง ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เดินทางเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนและพูดคุยกับผู้เสียหาย ระบุว่า ทางมหาวิทยาลัยไม่นิ่งนอนใจ โดยได้เรียกกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องมาสอบถามข้อมูลหมดทั้งห้องเรียนที่เกิดปัญหา ประมาณ 50 คน เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงและหาตัวผู้ที่ก่อเหตุ
เบื้องต้นยังไม่ชัดเจนว่าการรับน้องเกิดขึ้นในหรือนอกมหาวิทยาลัย แต่ยืนยันว่ามหาวิทยาลัยมีกฏระเบียบของการรับน้องที่ชัดเจนอยู่แล้ว โดยการรับน้องต้องเป็นการรับอย่างสร้างสรรค์ แต่ยอมรับว่าอาจมีบางครั้งที่มีรุ่นพี่ฝ่าฝืนจัดรับน้องที่ไม่เป็นไปตามนโยบายของมหาวิทยาลัย
ด้าน พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ เรือนแก้ว รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.แม่โจ้ เปิดเผยว่า แม้รุ่นพี่ที่เข้ามาให้ปากคำจะปฏิเสธ แต่ทางตำรวจจะเรียกนักศึกษาทั้งหมดที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง 23 คน มาสอบปากคำในวันพรุ่งนี้ เพื่อหาคนลงมือให้ได้
ซึ่งคดีนี้ผลตรวจแพทย์ออกมาแล้ว พบว่าผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บไม่ถึงสาหัส ใช้เวลารักษาตัวถึง 7 วัน คดีนี้หากพบผู้กระทำความผิด พนักงานสอบสวนมีอำนาจเปรียบเทียบปรับที่โรงพักได้ มาตรา 391 “ผู้ใดใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้มีข้อมูลระบุว่ายังมีผู้เสียหายอีกหนึ่งคนที่เป็นรุ่นน้องคณะเดียวกันถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บเหมือนกัน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เข้าแจ้งความ ซึ่งหากเข้ามาแจ้งความเมื่อไหร่ ทางตำรวจก็จะดำเนินการสอบสวนให้ทันที
ร้องรุ่นพี่รับน้องรุนแรง จี้มหาวิทยาลัยตรวจสอบ
