แบงก์ชาติ ประกาศลดดอกเบี้ยลงอีกร้อยละ 0.25


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จากระดับ 1.50% เป็น 1.25% มีผลทันที

ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในที่ประชุม คณะกรรมการ กนง. มีมติให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 จากระดับร้อยละ 1.50 เป็นร้อยละ 1.25 โดยเป็นมติ  5 ต่อ 2 เสียง

บทสรุปการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35

โดยในที่ประชุม 5 เสียงที่มีมติให้ลดดอกเบี้ย ระบุว่า เนื่องจากเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้และต่ำกว่าศักยภาพมากขึ้นจากการ “การส่งออกสินค้าที่ลดลง ซึ่งส่งผลไปสู่การจ้างงานและอุปสงค์ในประเทศ” อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มต่ำกว่าเป้าหมายแม้ว่าจะมีการดูแลเสถียรภาพทางการเงินไปแล้วบางส่วน ซึ่งการลดอัตราดอกเบี้ยอาจทำให้สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้

ขณะที่ อีก 2 เสียงเห็นว่าให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ เนื่องจากในภาวะปัจจุบันนโยบายการเงินผ่อนคลายอยู่แล้ว "การลดดอกเบี้ยอาจไม่ช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวมากนัก" เมื่อเทียบกับความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงินที่อาจเพิ่มสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้เดิมและต่ำกว่าระดับศักยภาพมากขึ้น โดยการส่งออกสินค้าหดตัวมากกว่าที่ประเมินไว้และจะมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่คาดไว้ ตามปริมาณการค้าโลกที่ชะลอลงจากสภาวะการกีดกันทางการค้า ภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง

สำหรับด้านอุปสงค์ในประเทศ การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มชะลอลงตามรายได้ของครัวเรือนและการจ้างงานที่ปรับลดลงเร็วโดยเฉพาะในภาคการผลิตเพื่อส่งออก รวมถึงแรงกดดันจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง แม้ว่าจะได้รับการสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ ขณะที่การย้ายฐานการผลิตมายังไทยและโครงการร่วมลงทุนของรัฐและเอกชนในโครงสร้างพื้นฐานจะช่วยสนับสนุนการลงทุนในระยะต่อไป การใช้จ่ายภาครัฐมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้

ส่วนหนึ่งจากการเลื่อนการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ เห็นว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะความเสี่ยงด้านต่างประเทศจากสภาวะการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศ แนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนและประเทศอุตสาหกรรมหลักที่จะส่งผลมาสู่อุปสงค์ในประเทศ และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์

" คณะกรรมการฯ จะติดตามผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและการใช้จ่ายของภาครัฐ ตลอดจนความคืบหน้าของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและผลต่อเนื่องไปยังการลงทุนภาคเอกชน "

นายกฯไทย-จีน ถกความร่วมมือเทคโนโลยี การลงทุนอีอีซี-ท่องเที่ยว

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ