หลังฝ่ายความมั่นคงสามารถระบุกลุ่มผู้ก่อเหตุ ถล่มชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านลำพะยา ว่าเป็นกลุ่มของนายบูคอรี หลำโส๊ะ ซึ่งเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งในพื้นที่ จ.ยะลา และ ปัตตานี จึงส่งชุดลาดตระเวนเดินเท้าจากพื้นที่ หมู่ที่ 5 ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา มาถึงพื้นที่ บ้านโผงโผง ม.4 ต.ปากล่อ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี และ พื้นที่เขานางจันทร์ ได้พบเพิ่งพักเป็นเต็นท์สีดำ ของใช้อีกจำนวนหนึ่ง และยังส่งชุดลาดตระเวนในหมู่บ้านเป้าหมายอีก 9 หมู่บ้าน ที่ให้การสนับสนุน ในพื้นที่จ.ยะลา และ ปัตตานี
“บีอาร์เอ็น” คือใคร? ทำไมต้องเกี่ยวข้องเหตุความไม่สงบใต้
ด้าน พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกอง อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ยืนยันว่า การติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุยิงถล่มฐาน ชรบ. ตำบลลำพะยา ขณะนี้ได้คุมตัวผู้ต้องสงสัยเป็นชาวบ้านตำบลปากล่อ อ.โคกโพธิ์ 1 คน ซึ่งยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำ เบื้องต้นให้การเป็นประโยชน์ แต่ยังให้การภาคเสธในบางส่วน
นอกจากนี้ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. ยืนยันว่า จากพยานหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ พอจะระบุตัวตนของผู้ก่อเหตุได้ โดยเฉพาะสารพันธุกรรมจากรอยเลือดของฝ่ายผู้ก่อเหตุที่บาดเจ็บ ซึ่งพบตามเส้นทางหลบหนี
ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ มั่นใจว่าจะสามารถออกหมายจับได้ ภายใน 1-2 วัน โดยเฉพาะกลุ่มที่เข้าไปยิงป้อม ชรบ.ลำพะยาอย่างน้อย 12 คน ส่วนผู้ร่วมขบวนการที่ทำหน้าที่ก่อกวน และให้ความช่วยเหลือเหตุการณ์นี้มีมากกว่า 30-40 คน
สำหรับ ชรบ.เป็นเพียงประชาชนที่เสียสละเข้ามาช่วยกันดูแลความปลอดภัยชุมชนของตนเองไม่ใช่เป็นกองกำลังติดอาวุธฝ่ายพลเรือน ตามที่องค์กรแนวร่วมและกลุ่ม PerMas นำมากล่าวอ้างเพื่อสร้างความชอบธรรมในการก่อเหตุของกลุ่มขบวนการ บีอาร์เอ็น ดังที่ปรากฏให้เห็นในช่วงที่ผ่านมา
ส่วนกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่า กองทัพภาคที่ 4 ได้ประกาศเคอร์ฟิวส์ทั่วพื้นที่เพื่อตามล่ากลุ่มขบวนการ บีอาร์เอ็น ที่ก่อเหตุสะเทือนขวัญสังหารหมู่ประชาชน 15 ศพ ในช่วงที่ผ่านมา นั้น โฆษก กอ.รมน.ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง แต่ย้ำว่าแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เน้นย้ำให้เข้มงวดในการติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินการตามกฏหมาย โดยใช้กฏหมายพิเศษ
เปิดแผนคนร้ายถล่มฐาน ชรบ.ลำพะยา
เปิดใจผู้รอดชีวิต เหตุคนร้ายถล่มป้อม ชรบ.ลำพะยา
ยิงถล่มยะลา! เสียชีวิต 15 ราย โปรยตะปูเรือใบกันจนท.ช่วยเหลือ