อันตราย! เผยสถิติ 3 วันลอยกระทง 5 ปี พบจมน้ำเสียชีวิต 166 ราย


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กรมควบคุมโรคเตือนลอยกระทง 3 วันข้อมูลย้อนหลัง 5 ปีเด็กต่ำกว่า 15 ปีจมน้ำเสียชีวิต 29 ราย โดยแค่ปี 61 ปีเดียวจมน้ำเสียชีวิตเพียบ!

นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า วันลอยกระทงปีนี้ตรงกับวันที่ 11 พ.ย. 2562 ซึ่งในแต่ละพื้นที่จะมีการจัดกิจกรรมตามประเพณี และจะมีประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมงาน โดยทุกปีจะพบผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำในค่ำคืนวันลอยกระทง จากข้อมูลของกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เฉพาะช่วงลอยกระทง 3 วัน (ก่อนวันลอยกระทง วันลอยกระทง และหลังวันลอยกระทง) ในช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา (ปี 2557-2561) พบผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำรวม 166 ราย (เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จำนวน 29 ราย) โดยในปี 2561 เพียงปีเดียว พบผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำ 26 ราย (เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จำนวน 5 ราย)

ระวัง ! เด็กปิดเทอมเสี่ยง “จมน้ำ” เสียชีวิต

“บางรายอาจได้รับอุบัติเหตุจากการจุดประทัด ดอกไม้ไฟ พลุ ทำให้ได้รับบาดเจ็บตามอวัยวะต่างๆของร่างกาย ดังนั้น กรมควบคุมโรค จึงขอเตือนประชาชนในช่วงเทศกาลวันลอยกระทงปีนี้ ขอให้ระมัดระวังอุบัติเหตุดังกล่าว นอกจากนี้ ขอแนะนำวัยรุ่นคู่รักที่มักควงคู่กันออกมาลอยกระทงให้รู้จักป้องกันการมีเพศสัมพันธ์” นพ.อัษฎางค์ กล่าว

คำแนะนำในการป้องกันการจมน้ำ ให้ยึดหลัก 3 อย่า คือ 1.อย่าใกล้: อย่ายืนใกล้ขอบบ่อ 2.อย่าเก็บ: อย่าลงน้ำไปเก็บเงินในกระทง 3.อย่าก้ม: อย่าก้มไปลอยกระทง โดยผู้ปกครองควรดูแลเด็กอย่างใกล้ชิดไม่ให้คลาดสายตา และเพิ่มความระมัดระวังเมื่อนำเด็กเข้าใกล้แหล่งน้ำ โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ต้องอยู่ในระยะที่แขนเอื้อมถึง ไม่ปล่อยให้เด็กไปลอยกระทงกันเองตามลำพังแม้จะอยู่บนฝั่งเพราะอาจพลัดตกหรือลื่นได้ รวมถึงในกะละมังหรือถังน้ำด้วย และไม่ควรให้เด็กลงเก็บกระทงหรือเก็บเงินในกระทงเด็ดขาด เพราะเด็กอาจเสี่ยงจมน้ำและเสียชีวิตได้ ส่วนในกลุ่มผู้ใหญ่ควรหลีกเลี่ยงการดื่มสุรา และลงน้ำ หากมีการโดยสารเรือให้สวมเสื้อชูชีพทุกครั้งทั้งผู้ใหญ่และเด็ก

รองอธิบดี คร.กล่าวอีกว่า  สำหรับคำแนะนำในการจุดประทัด ดอกไม้ไฟ และพลุ เพื่อความปลอดภัย ควรปฏิบัติดังนี้ 1.ไม่จุดประทัด พลุ ดอกไม้ไฟ ใกล้วัตถุไวไฟหรืออาคารบ้านเรือน ไม่เล่นผาดโผน อาจเสี่ยงเกิดการระเบิดได้ 2.ผู้ปกครองไม่ควรให้เด็กนำประทัด ดอกไม้ไฟมาจุด 3.หากจำเป็นต้องใช้ในงานพิธี ควรอ่านคำแนะนำก่อน และควรจุดให้ห่างจากตัวประมาณ 1 ช่วงแขน 4.ห้ามพยายามจุดประทัด ดอกไม้ไฟ และพลุที่จุดแล้วไม่ติดอย่างเด็ดขาด 5.ไม่เก็บประทัด ดอกไม้ไฟ  และพลุไว้ในกระเป๋าเสื้อ กางเกง หรือที่มีอากาศร้อน แดดส่องถึง เพราะอาจเกิดการเสียดสีและระเบิดได้

6.ควรเตรียมภาชนะบรรจุน้ำไว้ใกล้ๆ ไว้ใช้กรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน 7.ห้ามประกอบหรือดัดแปลงประทัด ดอกไม้ไฟ และพลุไว้จุดเองเด็ดขาด 8.ให้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 อย่างเคร่งครัด   และ 9.หากเกิดอุบัติเหตุ การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อนิ้วหรืออวัยวะใดอวัยวะหนึ่งขาดจากแรงระเบิด ให้รีบห้ามเลือดบริเวณที่อวัยวะขาด โดยใช้ผ้าสะอาดปิดบาดแผล และพันบาดแผลให้แน่นเพื่อป้องกันเลือดออก ไม่ควรใช้เชือกหรือสายรัดเหนือแผลเพราะจะทำให้เส้นประสาทหรือหลอดเลือดเสียหายได้ และรีบโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพ โทร. 1669

นอกจากนี้ ขอแนะนำกลุ่มวัยรุ่นให้มีสติ รู้จักป้องกันการมีเพศสัมพันธ์อย่างถูกวิธี ดังนี้ 1.ควรหาวิธีปฏิเสธหรือต่อรอง  เมื่ออยู่ในสภาวะที่ไม่พร้อมจะมีเพศสัมพันธ์หรือเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย 2.หากหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดโรค หรือการตั้งครรภ์ที่ยังไม่พร้อม 3.ระมัดระวังและไม่ควรไว้ใจผู้อื่นง่ายๆ ควรไปลอยกระทงเป็นกลุ่มไม่ไปในพื้นที่ล่อแหลมสุ่มเสี่ยง อย่าเปิดโอกาสที่จะอยู่ด้วยกันสองต่อสอง 4.ไม่ควรพิสูจน์ความรักด้วยการมีเพศสัมพันธ์ เพราะการมีเพศสัมพันธ์ดังกล่าวนี้ อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมาอีกมากมาย เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการติดเชื้อเอชไอวี การตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์อันจะนำไปสู่ปัญหาการทำแท้ง ก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมและสังคมตามมา สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ