กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า จะจบลงอย่างไร สำหรับกรณี “นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมทนายความ เดินทางไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายจับคดีฆาตกรรม “นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่” แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ซึ่งล่าสุดได้รับการประกันตัวออกไป กระทั่ง “น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือมึนอ” ภรรยาของ บิลลี่ ยื่นคัดค้านการประกันตัวนายช
เปิดประวัติ “ชัยวัฒน์” จาก “วีรบุรุษแก่งกระจาน” สู่คดีการเสียชีวิต “บิลลี่-พอละจี”
อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีการเสียชีวิตของบิลลี่นั้น เป็นข่าวสืบเนื่องมาตั้งแต่พ.ศ. 2557 โดยนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ “บิลลี่” เป็นหลานชายของปู่คออี้ ผู้นำทางจิตวิญญาณของกลุ่มชาติพันธุ์บางกลอยบน บนผืนป่าแก่งกระจาน หรือ ที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ใจแผ่นดิน”
โดยบิลลี่ มีโอกาสได้เรียนหนังสือ สามารถสื่อสารภาษาไทยได้อย่างชัดเจน และเป็นที่ไว้วางใจของชาวบ้านที่นั่น บิลลี่มีภรรยาชื่อมุนอ และมีลูกด้วยกัน 5 คน ซึ่งนอกจากจะเป็นแกนนำกลุ่มชาติพันธุ์กระเหรี่ยงแล้ว เขายังเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
กระทั่งวันที่ 17 เมษายน พ.ศ.2557 เขาได้หายตัวไป หลังจากเมื่อ เวลา 10.00 น. ได้เดินทางออกจากหมู่บ้านโป่งลึก-บางกลอย เข้าสู่ตัวเมืองในอำเภอแก่งกระจาน จนเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันเดียวกัน ชาวบ้านได้ทราบข่าวอย่างไม่เป็นทางการว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จับกุม และนำตัวไปสอบสวน โดยยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน
ในขณะนั้นบิลลี่เป็นหนึ่งในพยานคนสำคัญในคดีชาวบ้านบางกลอย จ.เพชรบุรี ยื่นฟ้องกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช คดีนำกำลังเข้ารื้อทำลายเผาบ้านเรือน และทรัพย์สินของชาวบ้านหลายครอบครัว รวมถึงบ้านของปู่คออี้ด้วย
เช้าวันที่ 18 เมษายน พ.ศ.2557 บิลลี่ยังไม่กลับเข้าบ้าน ชาวบ้านโป่งลึก-บางกลอย เริ่มออกตามหา และนายกระทง โชควิบูลย์ ผู้ใหญ่บ้านบางกลอย หมู่ 1 ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี จึงได้เข้าแจ้งความที่สถานที่ตำรวจภูธรแก่งกระจาน
โดยนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่กระจาน ณ ขณะนั้น ได้ยอมรับว่าได้จับตัวนายพอละจี รักจงเจริญ ไปจริง เพราะได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าจับกุมผู้บุกรุกป่า และพบของกลางเป็นน้ำผึ้งเป็นจำนวนหนึ่ง จึงมารับตัวไปเพื่อสอบสวน และตักเตือน ก่อนจะปล่อยตัวไปที่แยกหนองมะข้า
ต่อมาในวันที่ 21 เมษายน 2557 ภรรยาของบิลลี่ ชาวบ้าน และผู้แทนเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม เขตตะนาวศรี ยื่นหนังสือต่อนายมณเฑียร ทองนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ที่ศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี และ พล.ต.ต. พีรชาติ รื่นเริง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี และที่กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี เพื่อขอความเป็นธรรม และให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน ( ข้อมูลจาก : เครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม)
ภรรยาบิลลี่
นับตั้งแต่การหายตัวไปของบิลลี่ เมื่อพ.ศ. 2557 และในวันที่ 28 มิถุนายน 2561 คณะกรรมการคดีพิเศษ มีมติในการประชุมรับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ โดย นางพิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยานายพอละจี และญาติ เชื่อว่าเป็นการบังคับให้สาบสูญ กระทั่งวันที่ 3 กันยายน 2562 “ดีเอสไอ” แถลงพบหลักฐานกะโหลกมนุษย์ที่มีการเผาทำลาย ถูกทิ้งบริเวณสะพานแขวน เขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
โดยได้มีการตรวจพบสารพันธุกรรมตรงกับนางโพเราะจี รักจงเจริญ แม่นายพอละจี เป็นไมโตรคอนเดียดีเอ็นเอ ซึ่งเป็นสารพันธุกรรมที่ถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกเท่านั้น จึงยืนยันได้ว่ากะโหลกศีรษะที่พบเป็นของนายพอละจี และเสียชีวิตจากเหตุฆาตกรรม รวมเวลาการหายสาบสูญไป 5 ปี
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร
กระทั่งดีเอสไอออกหมายจับ นายชัยวัฒน์ และได้มีการรับทราบข้อกล่าวหา และขอประกันตัว โดยทางนายชัยวัฒน์ ยืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และทั้งหมดเป็นการถูกจัดฉาก
เรื่องนี้จะเป็นอย่างไรต้องติดตามต่อไป...
“ชัยวัฒน์” รอดนอนคุก ศาลให้ประกันคดีฆ่า “บิลลี่ พอละจี”
ศาลอนุมัติหมายจับ “ชัยวัฒน์”เอี่ยวคดีบิลลี่ พอละจี
“ชัยวัฒน์” ท้าสาบานจุดพบถัง-กระดูก “บิลลี่”