จากกรณีชาวประมงพื้นบ้าน พบซากฉลามวาฬยักษ์ ลอยตายกลางทะเลเกาะลิบง ผลผ่าพิสูจน์แล้วฉลามวาฬไม่พบเศษขยะในกระเพาะ คาดเกิดจากภาวะช็อก เนื่องจากการถูกเชือกพันรัด ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงเฉียบพลัน
“วาฬบรูด้า – วาฬโอมูระ – เต่ามะเฟือง – ฉลามวาฬ” ขึ้นชั้นสัตว์สงวน
ที่ริมหาดยาว ตรงข้าม อบต.เกาะลิบง ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง สัตวแพทย์หญิงปิยรัตน์ คุ้มรักษา สัตวแพทย์ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง และเจ้าหน้าที่ร่วมกันผ่าซากฉลามวาฬพิสูจน์หาสาเหตุการตาย ซึ่งใช้เวลาในการผ่าซากกว่า 2 ชั่วโมง
สำหรับผลการตรวจสอบพบเป็นฉลามวาฬ เพศผู้ อายุในช่วงวัยรุ่น สภาพซากเน่า ขนาดความยาว 5 เมตร 30 เซนติเมตร พบเชือกพันรัดที่บริเวณโคนหาง ไม่พบบาดแผลภายนอกลำตัว บริเวณครีบหลังที่ 1 มีรอยแผลเป็นจากการถูกใบพัดเรือฟัน คาดว่าเป็นแผลเดิมที่เป็นมานานแล้ว เมื่อเปิดผ่าอวัยวะภายในพบว่าลักษณะหัวใจซีด คาดว่าอาจเกิดจากภาวะช็อก เนื่องจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรงเฉียบพลัน (capture myopathy) ภายในหัวใจไม่พบพยาธิ ตับมีสีสม่ำเสมอ ลักษณะเนื้อตับค่อนข้างเละ เนื่องจากสภาพซากเน่า ส่วนทางเดินอาหารพบอาหารในกระเพาะอาหารจำนวนมาก เป็นพวกแพลงก์ตอนและปลาขนาดเล็ก จากนั้นได้เก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อ เพื่อส่งตรวจทางดีเอ็นเอ ตรวจทางจุลพยาธิวิทยา และเก็บอาหารในกระเพาะอาหารเพื่อตรวจวิเคราะห์ละเอียดทางห้องปฏิบัติการต่อไป
สำหรับฉลามวาฬทางเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้ เผยแพร่ "พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562" โดยประกาศเพิ่มบัญชีให้ วาฬบรูด้า วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และฉลามวาฬ เป็นสัตว์สงวนชนิดใหม่อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา
ข่าวดีในรอบ 30 ปี ครม. เห็นชอบ 4 สัตว์สงวนใหม่ของไทย