จากคดีระหว่างบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด กับพวกรวม 5 คน หรือ กลุ่มซีพี ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก กรณีมีการยื่นเอกสารล่าช้า 9 นาที
ศาลปกครองสูงสุด พิจารณาคดีซีพียื่นประมูล “เมืองการบิน” ช้า 9 นาที
“ศึกชิงอู่ตะเภา” ทร.ห่วงทำลายระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ
โดยกรณีนี้ นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) มองว่า ใครก็ตามที่จะค้าขายกับภาครัฐ ทุกคนต้องเคารพกติกาที่ทำกันมาช้านาน และทุกคนก็รู้ดี โดยเฉพาะกลุ่มบริษัท ซีพี ก็เคยประมูลกับรัฐมาจำนวนมาก จึงรู้ขั้นตอนอยู่แล้ว เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องให้ความเคารพ
นายมานะ ยังบอกอีกว่า ถ้าศาลปกครองสูงสุดตัดสินให้กับเอกชนรายนี้ชนะ จะเป็นการทำลายระบบนิติรัฐของประเทศ เป็นการเปลี่ยนแปลงระบบจัดซื้อจัดจ้างครั้งใหญ่ของประเทศ เกิดความเสียหายอย่างมากแก่ประเทศ แต่หากเกิดศาลยืนคำพิพากษาตามศาลชั้นต้นให้ทุกอย่างจะเป็นไปตามกติกา กรอบเวลาเดิม จะทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในตัวกฎหมายที่เป็นบรรทัดฐานของสังคม ซึ่งทุกโครงการในอีอีซี ยังได้นำข้อตกลงคุณธรรมเข้ามาใช้ด้วย เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและเป็นธรรม รวมถึงการรักษาผลประโยชน์ของประเทศ
สอดคล้องกับ นายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ บอกว่า เรื่องนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นอยู่แล้ว เพราะหลักเกณฑ์มีบอกอย่างชัดเจน มีประกาศรับรู้โดยทั่วกันอยู่แล้ว การที่เอกชนรายใดไม่มา หรือมาไม่ทัน ก็ถือว่าไม่ประสงค์ที่จะประมูล หากจะรอไปเรื่อยๆก็ไม่จบสิ้น ซึ่งเอกชนทุกรายทำถูกต้อง หากเอกชนรายนี้ผ่านไปได้ แล้วบริษัทอื่นๆที่เขาทำถูกต้องจะทำอย่างไร หากผู้ที่ทำถูกต้องตามระเบียบเขายื่นฟ้องกันต่อว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็จะไม่มีวันจบสิ้น
นอกจากนี้ นายสาวิทย์ ยังเสนอว่า การประมูลโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ ควรเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนทั่วไปมี โอกาสได้รับรู้เนื้อหาสาระของสัญญา รวมถึงแผน ว่าจะเป็นอย่างไร จะกระทบอะไรบ้าง ทำให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ ก็จะไม่เกิดปัญหาตามมา
“ศึกชิงอู่ตะเภา” ทร.ห่วงทำลายระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ