เพตเตอรี ทาลาส เลขาธิการองค์การอุตุนิยมวิทยาโลกของสหประชาชาติ ระบุว่าแม้นานาประเทศจะลงนามร่วมกันในข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสถาพภูมิอากาศ แต่อัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกยังคงเพิ่มขึ้น
นักวิทยาศาสตร์ พบ“ก๊าซเรือนกระจก”เพิ่มสูงสุด
โดยรายงานขององค์กรดังล่าวพบว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นผลมาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอซซิล และเป็นปัจจัยอันดับ 1 ที่ทำให้โลกร้อน มีปริมาณความหนาแน่น 407.8 ส่วน ต่อ 1 ล้านส่วนในปี 2018 เพิ่มขึ้นจากปี 2017 ที่มีความหนาแน่น 405.5
นอกจากนี้อัตราความหนาแน่นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่เพิ่มขึ้นในปี 2018 ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปี ระหว่างปี 2005 ถึงปี 2015 และมากกว่ายุคก่อนอุตสาหกรรมในปี ค.ศ.1750 ประมาณ 147 เปอร์เซนต์
นักวิทย์เตือนโลกกำลังกลายสภาพเป็น “โรงบ่มความร้อน”
ขณะที่ก๊าซมีเทน มีความหนาแน่นเพิ่มขึ้นจากปี 2018 ในอัตราที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปี เช่นกัน โดย60 เปอร์เซนต์ของ ก๊าซชนิดนี้เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์เช่นการเลี้ยงปศุสัตว์ การปลูกข้าว และ การสร้างแหล่งทิ้งขยะและที่เหลืออีก 40 เปอร์เซนต์มาจากแหล่งธรรมชาติเช่นพื้นที่ชุ่มน้ำ
ส่วนก๊าซไนตรัสออกไซด์ ที่เป็นตัวการทำลายโอโซนและทำให้มนุษย์ได้รับรังสีอัลตาไวโอเลตมากขึ้น มีความแหนาแน่นสูงสุดเป็นสถิติเช่นกัน
สำหรับรายงานขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลกจะถูกตีพิมพ์ก่อนการประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้าที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน
ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 ปี
สหรัฐฯปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 ปี