ปารีณา ส่งทนายฟ้อง "วีระ-อัจฉริยะ" หมิ่นประมาท - แจ้งความเท็จ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ มอบอำนาจให้ทนายความยื่นฟ้อง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และนายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายภาคประชาชนต่อต้านคอรัปชั่น ในข้อหาแจ้งความเท็จ และหมิ่นปนะมาท หลังทั้งสองคน ให้สัมภาษณ์สื่มวลชน และพาดพิง น.ส.ปารีณา จากกรณี ที่ลงพื้นที่ในวันที่ เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. เข้าไปรังวัดที่ดิน

“ปารีณา”ยื่นฟ้อง“วีระ - อัจฉริยะ” แจ้งความเท็จ ปมที่ดินฟาร์มไก่

“วีระ”ขู่ ส.ป.ก.เข้าข่ายผิด ม.157 หากละเว้นเอาผิดฟาร์มไก่ “ปารีณา”

เมื่อวันที่ (2 ธ.ค. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญารัชดา นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ นำหลักฐานไปยื่นฟ้องนายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายภาคประชาชนต่อต้านคอรัปชั่น ในข้อหาแจ้งความเท็จ จากรณีที่ไปแจ้งความกล่าวหาว่า น.ส.ปารีณาบุกรุกที่ป่า และยังแจ้งข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กับทั้งนายวีระและนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม

นายธีรยุทธ ระบุว่า สำหรับคดีหมิ่นประมาท เกิดจากกรณีนายวีระและนายอัจฉริยะให้สัมภาษณ์กล่าวหา น.ส.ปารีณาคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง โดยเฉพาะประเด็นที่ระบุว่า น.ส.ปารีณา แบ่งที่ดินแปลงใหญ่เป็น 3 แปลงย่อยเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกยึดคืน และยังให้สัมภาษณ์ในเชิงเหยียดหยามดูถูก จึงมาร้องศาล ซึ่งหากคิดว่า น.ส.ปารีณาผิดจริง ก็ขอให้นำหลักฐานมาแสดงต่อศาล

ส่วนการจะฟ้องต่อกรมป่าไม้ต่อหรือไม่นั้น นายธีรยุทธ ทนายความระบุว่าตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างรวบรวบพยานหลักฐาน และรอดูท่าทีของอธิบดีกรมป่าไม้หลังจากนี้ ซึ่งหากดูแล้วพบว่ากระบวนการสืบสวนของกรมป่าไม้เป็นไปอย่างถูกต้อง ก็อาจจะไม่มีการฟ้องร้องเกิดขึ้น

กรณีที่ไปยื่นขอเปลี่ยนแปลงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ปปช.นั้น ทนายของ น.ส.ปารีณา ยืนยันว่า ไม่เข้าข่ายแจ้งเท็จ เพราะกรณีของ น.ส.ปารีณา เป็นเพียงความเข้าใจคลาดเคลื่อน แจ้งครอบครองที่ดินซ้ำในผืนเดียวกัน โดยดูเพียงเอกสารการเสียภาษีที่ดิน ภบท.5 คนละปี ทำให้ที่ดินถูกบวกเพิ่มเป็น 1000 กว่าไร่ ทั้งที่ข้อเท็จจริงมีเพียงประมาณ 600 ไร่เท่านั้น ซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาต่อการชี้แจงกับ ปปช.ในอนาคต

ขณะที่นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. ได้ระบุถึงกรณีนี้ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความมีอยู่จริงของทรัพย์สิน หากพบว่ามีความผิดปกติ เจ้าหน้าที่จะทำเป็นสำนวนและเรียก น.ส.ปารีณามาชี้แจง ซึ่งต้องดูด้วยว่า น.ส.ปารีณา มีเจตนาจงใจปกปิด หรือแจ้งเกินจริงหรือไม่ หากพบว่าไม่มีเจตนา ก็สามารถให้ น.ส.ปารีณา มาแก้ไข ข้อมูลให้ครบถ้วนได้ เพราะ กฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 109 วรรค 2 ให้อำนาจไว้

โดยในมาตรา 109 วรรค2 มีข้อความตอนหนึ่งระบุว่า "เมื่อปรากฏว่าบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินหรือเอกสารประกอบที่ได้รับมาตามวรรคหนึ่งไม่ครบถ้วน หรือมีข้อมูลคลาดเคลื่อน และไม่มีพฤติการณ์อันเชื่อได้ว่ามีเจตนาปกปิดทรัพย์สินหรือหนี้สิน ให้เลขาธิการหรือผู้ที่เลขาธิการมอบหมายแจ้งให้บุคคลดังกล่าวดําเนินการให้ครบถ้วนหรือถูกต้องภายในระยะเวลาที่เลขาธิการกําหนด"

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ