สัญญญาสั่งซื้อเรือดำน้ำดังกล่าวมีการลงนามเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ผู้บัญชาการกองทัพเรือสหรัฐฯ ในแปซิฟิกเตือนว่าจีนกำลังขยายแสนยานุภาพทางทะเลในภูมิภาคนี้ แต่กองทัพเรือสหรัฐฯ ที่ประจำการในพื้นที่มีเรือดำน้ำไม่เพียงพอต่อการรับมือกับกองทัพเรือของจีน
เขี้ยวเล็บใหม่ “ราชนาวีไทย” เรือดำน้ำ “Yuan Class S-26 T”
โดยเรือดำน้ำชั้นเวอร์จิเนีย ที่กองทัพเรือสั่งให้ต่อเพิ่มทั้ง 9 ลำนี้ จะมีศักยภาพเหนือกว่าเรือดำน้ำชั้นเดียวกันที่ขณะนี้มีประจำการแล้ว 18 ลำ และ อีก 8 ลำ ที่เริ่มดำเนินการสร้างไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พล.ร.ต.เดวิด ก็อกกินส์ ผู้บริหารโครงการเรือดำน้ำของกองทัพเรือสหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์ว่าเรือดำน้ำใหม่ทั้ง 9 ลำ จะเป็นพัฒนการอย่างก้าวกระโดดของเรือดำน้ำชั้นเวอร์จิเนีย
โดยเรือดำน้ำชั้นเวอร์จิเนียลำใหม่แต่ละลำจะมีระวางขับน้ำ 10,200 ตัน สูงกว่าเรือดำน้ำชั้นเดียวกัน ที่มีระวางขับน้ำ 7,800 ตัน และ ยังมีความยาวอยู่ที่ 460 ฟุต ยาวกว่าเรือดำน้ำชั้นเดียวกันกันที่ใความยาว 377 ฟุต
นอกจากนี้ ยังยิงจรวดโทมาฮอว์กได้ครั้งละ 40 ลูก ขณะที่เรือดำน้ำชั้นเวอร์จิเนียที่มีอยู่ยิงได้เพียง 12 ลูก อีกทั้งยังสามารถดำอยู่ใต้น้ำได้นานหลายเดือน โดยไม่ต้องขึ้นมาบนผิวน้ำ
สำหรับสัญญาฉบับนี้มีมูลค่ารวม 22,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 660,000 ล้านบาท สูงสุดเป็นสถิติของกองทัพเรือสหรัฐฯ และอาจเพิ่มเป็น 24,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 720,000 ล้านบาท หากกองทัพเรือสหรัฐฯใช้สิทธิ์ต่อเรือลำที่ 10 ภายใต้สัญญาสั่งซื้อฉบับนี้
สหรัฐฯ นำ“เรือดำน้ำ”พลังงานนิวเคลียร์ฝึกร่วมทร.ไทย
รู้ที่มาเรือดำน้ำโผล่กลางทะเลภูเก็ต
