เอกอัคราชทูตเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติ ระบุในแถลงการณ์ว่า ข้อเสนอการเจรจาแบบต่อเนื่องและจริงจัง เป็นเพียงกลยุทธ์เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองภายในของสหรัฐฯ ที่ปีหน้า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะต้องลงสู่สนามเลือกตั้งรักษาเก้าอี้ผู้นำประเทศเป็นสมัยที่ 2
"คิมจองอึน” ขู่เปลี่ยนท่าที หากสหรัฐฯไม่เลิกคว่ำบาตร
โดย คิม ซอง กล่าวว่า ขณะนี้เกาหลีเหนือไม่มีความจำเป็นต้องเจรจากับสหรัฐฯ ในรูปแบบที่ต่อเนื่อง และจะไม่มีการพูดคุยในประเด็นเกี่ยวกับการยุติการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์
ขณะที่ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ว่าจะต้องจับตาดูท่าทีของเกาหลีเหนือต่อไป แต่ เชื่อว่าเกาหลีเหนือจะไม่ทำอะไรที่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และ ยืนยันว่าตัวเขายังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ คิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ
สำหรับ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือ กลับมาตึงเครียดอีกครั้งในช่วงนี้ โดยในปีหน้าจะครบกำหนดเส้นตายที่เกาหลีเหนือเรียกร้องให้สหรัฐปรับเปลี่ยนท่าทีที่มีต่อเกาหลีเหนือ
ขณะเดียวกัน คิมจองอึน เตือนว่าปีหน้าเกาหลีเหนือ จะเลือกใช้วิธีการใหม่ๆ ซึ่งสร้างความวิตกว่า เกาหลีเหนืออาจกลับมาทดสอบระเบิดนิวเคลียร์และขีปนาวุธพิสัยไกล ที่ระงับไปตั้งแต่ปี 2017
สหรัฐฯ ขีดเส้นปี 2020 ต้องเห็นเกาหลีเหนือปลดนิวเคลียร์
รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯไปเกาหลีเหนือ ถกปลด “นิวเคลียร์”