“พุทธิพงษ์” สั่งดำเนินคดี คนปล่อยข่าวภาษีผ้าอนามัย


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ข่าวการปรับขึ้นภาษีผ้าอนามัย 40% ที่ น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ อ้างว่าเป็นมติของคณะรัฐมนตรี จนมีการเผยแพร่และวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง ล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ออกมาเปิดเผยว่าได้สั่งให้แจ้งความดำเนินคดี ฐานนำเข้าข่าวอันเป็นเท็จแล้ว

โฆษกรัฐบาล ยัน ครม.ไม่เคยมีมติให้"ผ้าอนามัย"เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย

มาดูกัน! ข้อแตกต่างภาษี “ผ้าอนามัย" ชนิดสอดกับแบบภายนอก เหมือนหรือต่าง..

เป็นมาตรการที่ตามมา หลังจากที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตรวจสอบพบและแจ้งเตือนประชาชนเกี่ยวกับข่าวปลอม ทั้ง การขึ้นภาษีผ้าอนามัย และการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อรับมือการชุมนุม โดย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และตำรวจ เพื่อตรวจสอบต้นทางของข่าว หากพบว่ามีเจตนาในการสร้างข่าวเท็จ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง หรือบุคคลใด ก็จะต้องดำเนินคดีและขอศาลออกหมายจับตามกฎหมายทันที

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่ากระแสข่าวขึ้นภาษีผ้าอนามัย 40% เป็นข่าวปลอม และหลายหน่วยงานได้ออกมาชี้แจงแล้ว ส่วนข้อเรียกร้องของกลุ่มสตรี ที่ออกมารณรงค์ให้ยกเลิกภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT 7% นายอนุทิน ยังไม่ทราบรายละเอียด และมองว่าการจะทำได้จะต้องมีกฎหมายรองรับ แต่ระบบภาษี VAT ตามปกติก็ใช้กับสินค้าทุกรายการ หากต้องยกเว้นสินค้าตัวใดตัวหนึ่งด้วยเหตุผลดังกล่าว ก็อาจทำให้มีผลกระทบกับสินค้ารายการอื่นได้

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ความคิดเห็นส่วนตัว ยอมรับว่าเห็นด้วยกับการทบทวนการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้าฟุ่มเฟือยประเภท ผ้าอนามัย ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ และถุงยางอนามัย ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต พร้อมยกตัวอย่างประเทศที่ศึกษามา ได้แก่อังกฤษ และประเทศออสเตรเลียที่ให้ความสำคัญ โดยมีการจัดเก็บภาษีในอัตราต่ำสุด หรือยกเว้นการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้าเหล่านี้

ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ ก็ยืนยันว่า สินค้าผ้าอนามัยเป็นสินค้าควบคุมตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งปัจจุบันก็ยังเป็นสินค้าควบคุมในหมวดสินค้าอุปโภคบริโภค ลำดับที่ 31 ซึ่งผู้ผลิต ผู้นำเข้า ต้องแจ้งต้นทุนและราคาขาย

ขณะที่นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ก็ย้ำว่า ที่ผ่านมากรมสรรพสามิตไม่เคยเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าผ้าอนามัย โดยปัจจุบันผ้าอนามัยเสียแค่ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เท่านั้น และ สินค้าผ้าอนามัย ไม่ถือว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย เนื่องจาก เป็นสินค้าที่มีความจำเป็น เป็นสินค้าที่สุภาพสตรีจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ดังนั้น ในนิยามการเสียภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย คือ ถ้าไม่มีใช้ก็ไม่กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน ถ้าส่งผลกระทบก็ให้ถือว่าเป็นสินค้าที่ไม่ฟุ่มเฟือย

ก.พาณิชย์ โต้กลับ ‘ผ้าอนามัย’ เป็นสินค้าควบคุม ไม่ใช่ฟุ่มเฟือย

 

 

 

 

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ