อันตราย! เคสม.1 ยิงเพื่อนเสียชีวิต เหตุจากถูกบูลลี่  กรมจิตฯส่งทีมเยียวยาเด็ก


โดย PPTV Online

เผยแพร่




จิตแพทย์เผยอันตราย  ไทยมักมองบูลลี่ในโรงเรียนเรื่องธรรมดา ทั้งที่เป็นเหตุความรุนแรง ชี้เคสเด็กม.1 ยิงเพื่อน อีกตัวอย่างที่ต้องป้องกันทั้งระบบ

จากเหตุสลดใจกรณีเด็กนักเรียนมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1 หรือม.1 ยิงเพื่อนร่วมชั้นเรียน เนื่องจากให้ข้อมูลว่าทนไม่ไหวกับการถูกล้อเลียน จึงขโมยปืนพ่อมายิงเพื่อนจนเสียชีวิต จนทำให้หลายคนกังวลว่า ปัญหาการถูกบูลลี่ หรือล้อเลียนจะนำไปสู่ความรุนแรงได้มากน้อยแค่ไหน

เปิด ‘ 7 รูปแบบไซเบอร์บูลลี่’  กับ ‘4 วิธีรับมือ’

สลดใจ! เด็กม.1 ใช้ปืนพ่อยิงเพื่อนร่วมห้องเสียชีวิต เหตุคับแค้นใจถูกล้อว่า เป็นตุ๊ด

เรื่องนี้ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงกรณีนี้ ว่า     ปัญหาเรื่องการบูลลี่ หรือการกลั่นแกล้งกันนั้นมีมานานแล้ว ต่างประเทศให้ความสนใจมาก ในประเทศไทยมีน้อย เพราะมีความเป็นเพื่อนเยอะ แต่ตอนนี้สังคมเปลี่ยนแปลง ความสนิทลดลง มีการแบ่งกลุ่มกันมากขึ้น เด็กที่อ่อนแอมักถูกกลั่นแกล้ง ซึ่งมีทั้งทางวาจา จิตใจ อารมณ์ ร่างกาย ซึ่งมีผลกระทบรุนแรงแตกต่างกันแล้วแต่การปรับตัวของแต่ละคน แต่ส่วนใหญ่คนที่อ่อนแอกว่ามักจะเกิดการถดถอย เครียด ซึมเศร้า แต่บางคนอาจเกิดการถดถอยช่วงแรกแล้วมีการสู้กลับด้วยพฤติกรรมที่รุนแรง มีการต่อสู้ ทำร้ายกันและกันได้ อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้อาจจะเพราะมีความเครียดสูง

“การแก้ไขเรื่องนี้ครู โรงเรียนต้องสร้างเสริมวัฒนธรรมที่ดี เห็นว่าการกลั่นแกล้งรังแกกันในโรงเรียนเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปเป็นบทเรียน สร้างวัฒนธรรมเรื่องการช่วยเหลือกันในกลุ่มเพื่อนฝูง ไม่อยากให้มีกลุ่มมีแก๊ง รวมถึงวัฒนธรรมการให้ความช่วยเหลือผู้อ่อนแอด้วย” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว

กลั่นแกล้งในโรงเรียน ปัญหาใหญ่ที่ต้องร่วมมือกันแก้ไข

อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวอีกว่า บางคนอ่อนไหวกับเรื่องบางเรื่อง บางคนแค่ล้อชื่อพ่อ ชื่อแม่ก็โกรธกันมาก บางคนโกรธที่ถูกล้อเรื่องลักษณะเพศ ซึ่งสมัยนี้มีเยอะ สมัยก่อนจะมีเรื่องการเรียนไม่เก่ง แต่ก็ไม่รุนแรงมาก ทั้งนี้ เกี่ยวกับเรื่องลักษณะความนิยมทางเพศ ย้ำว่าไม่ใช่โรคทางจิตเวช ไม่ใช่ความผิดปกติแต่อย่างใด แต่นี่เป็นความสนใจทางเพศปกติของมนุษย์ เป็นรสนิยมส่วนบุคคล ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้สังคม การที่ไปล้อเรียน หรือไปแบ่งแยกคนเหล่านี้ออกจะมีผลลบ ทั้งนี้ ปัจจุบันมีการเรียนการสอนเรื่องเพศศึกษา ก็อยากให้เสริมเรื่องคุณค่าทางจิตใจ และรสนิยมทางเพศเข้าไปด้วยว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ  อย่างไรก็ตาม กรมฯ ต้องมีการส่งจิตแพทย์ เข้าไปดูแลเรื่องเกี่ยวกับสภาพจิตใจผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งกรณีนี้กรมสุขภาพจิตได้ประสานขอส่งเจ้าหน้าที่ไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับอนุญาต คาดว่าน่าจะสามารถเข้าไปได้ในอีก 1-2 วัน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ

ผู้สื่อข่าวถามว่าเคสที่เกิดขึ้นมีสาเหตุคล้ายหรือสอดคล้องกับปัญหาการกราดยิงเพื่อนร่วมชั้นเรียนในต่างประเทศหรือไม่ นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า  คงมีลักษะคล้ายกัน ซึ่งในต่างประเทศมีโปรแกรมต่อต้านการกลั่นแกล้งกันในโรงเรียนเลย เขาให้ความสำคัญสูงมาก แต่ในเมืองไทยยังมองว่าการที่เด็กแกล้งกันในโรงเรียนเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ต้องเรียนว่าการกลั่นแกล้งกันนั้นเป็นสิ่งที่มีผลกระทบต่อสภาพจิตใจที่ทำให้เกิดความรุนแรงได้  เพราะฉะนั้นอยากให้ครู อาจารย์ให้ความสนใจเรื่องนี้ และหากอยากให้กรมสุขภาพจิตเข้าไปช่วยเหลือเรื่องนี้ทางกรมก็ยินดี ซึ่งทางสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นมีการจัดทำโปรแกรมเหล่านี้เอาไว้อยู่แล้ว สามารถติดตั้งไว้ในโรงเรียน

 

 

 

 

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ