วันที่ 23 ธ.ค. 2562 ที่โรงแรมเช็นทรา ศูนย์ราชการฯ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดประชุมสัมมนาการบูรณาการงานพัฒนาคุณภาพชีวิตกับการป้องกันการบาดเจ็บจากการจราจรบนท้องถนน และประกาศนโยบาย "มหานครปลอดภัย ปลอดอุบัติเหตุทางถนน" ของกรุงเทพมหานคร โดยมีผู้ร่วมประชุมประมาณ 300 คน
นักกฎหมายฟันธง ! ขับรถชนเด็กแว้นจอดรอประลองความเร็ว ใครต้องรับผิดชอบ
“ผ่าปัญหาเชิงระบบ” เหตุใด “เด็ก” เข้าถึงจยย.ก่อนวัยอันควร
นายสาธิต กล่าวว่า ประเทศไทยมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนเป็นอันดับ 9 ของโลก แต่ละปีมีคนเสียชีวิตกว่า 2.2 หมื่นคน ในขณะที่กรุงเทพฯ มีคนเสียชีวิตจากอุบัติทางถนนเป็นอันดับ 1 ของประเทศถึง 6 ปีซ้อน สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจ 232,000 ล้านบาท มีคนที่ต้องพิการ และกระทบกับคุณภาพชีวิตของคนในครอบครัวอีกจำนวนมาก วันนี้กรุงเทพฯ จะมีการประกาศการเป็นมหานครแห่งความปลอดภัยฯ นับเป็นจุดเริ่มต้นของการดำเนินมาตรการต่างๆ จึงหวังว่าจะช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บ และเสียชีวิตจากท้องถนนลงได้มากกว่านี้
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ประเทศไทยมีอัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากความไม่ปลอดภัยทางถนนอยู่ในอันดับที่ 9 ของโลก โดยประชาชนในกลุ่มวัยเรียน และวัยทำงานเป็นกลุ่มที่มีอัตราเสียชีวิตมากที่สุด นำมาซึ่งความสูญเสียทรัพยากรบุคคล และภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว รวมถึงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ปัญหาเหล่านี้เกิดจากการขยายตัวของเมืองอย่างก้าวกระโดด จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กลายเป็นมหานครที่มีความหลากหลาย ถือเป็นความท้าทายในการแก้ไขปัญหา ซึ่งที่ผ่านมาก็ดำเนินการอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยในการเดินทาง โดยมีทิศทางการทำงาน 4 ด้าน คือ 1. ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อประโยชน์ในการจัดลำดับความเสี่ยง เช่น ถนน ผู้ขับขี่ ยานพาหนะ รวมถึงมลภาวะจากการใช้รถใช้ถนนอย่างฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวต่อว่า 2.เป็นแหล่งรวมข้อมูลเพื่อสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ขับเคลื่อนการทำงานเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ 3. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน ตั้งแต่การร่วมคิด ร่วมทำ และประเมินผล เพื่อการแก้ปัญหาที่เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ และ 4.สนับสนุนความปลอดภัยในการเดินทางของกลุ่มเสี่ยง อาทิ เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ทั้งนี้ นโยบายและแนวทางทั้ง 4 ข้อนี้จะต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาจราจร การสร้างทางเลือกในการเดินทาง และการจัดระเบียบพื้นที่ เพื่อให้ผู้ที่ใช้ถนน ทางเข้า และทางม้าลาย สามารถสัญจรได้อย่างสะดวกและปลอดภัย และสามารถใช้ประโยชน์อื่นๆ ร่วมกันโดยไม่กระทบต่อการเดินทาง มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดให้ครอบคลุม การแก้ไขปัญหามลพิษและสิ่งแวดล้อมตามกลไกของ Smart City เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการเดินทางและพัฒนาไปสู่การเป็นมหานครต้นแบบแห่งความปลอดภัยของโลกให้ได้ในอนาคตอันใกล้นี้
“กว่า 90% ของอุบัติเหตุทางถนนในกรุงเทพเกิดจากรถจักรยานยนต์ แทรกไป แซงมา ขับเร็ว ไม่สวมหมวกกันน็อกทำให้รวมถึงมีนักซิ่งมีการลักลอบปิดถนนแข่งกัน เกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บเสียชีวิตกันเยอะ บอกเลยว่าถ้าอยากจะแข่งรถให้ไปบุรีรัมย์นู่นเขามีสนามแข่งให้ ชนะก็มีรางวัลให้ มาปิดถนนแข่งแบบนี้ผิดกฎหมาย บาดเจ็บ เสียชีวิตก็มีแต่พ่อ แม่ที่ต้องเสียใจ ส่วนอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะก็มี แต่น้อย ส่วนใหญ่เป็นรถประจำทางสายที่เป็นเจ้าประจำที่เราก็รู้ว่าสายไหน ขับแข่ง แซงกันไปมา ไม่พอใจก็ทะเลาะวิวาท กระเป๋า กระปี๋ก็ลงมาตบกัน” ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว และว่าส่วนช่วงปีใหม่ถนนโล่ง ก็ขอให้ขับขี่กันด้วยความระมัดระวัง อย่าขับเร็ว ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด
รวบทั้งเด็กแว้น – ผู้ใหญ่แว้น ร่วมร้อยคน