พลาสติกไมโครบีดส์ อยู่ในรูปแบบของแข็งที่ไม่ละลายน้ำ ไม่สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติและมีวัตถุประสงค์เพื่อขัดทำความสะอาด โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่ 1 ม.ค.63 ส่วนที่วางจำหน่ายก่อนวันที่ใช้บังคับต้องดำเนินการตามประกาศภายใน 180 วัน ตั้งแต่วันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ
เจาะสูตรสร้าง “ถุงพลาสติกย่อยสลายได้สำหรับขยะเศษอาหาร” สลายหมดภายใน 4 เดือน
ภัยแฝงจาก "ไมโครบีดส์ย้อนกลับมาเป็นสารก่อมะเร็ง"
ในเว็บไซต์ green peace ระบุว่า ไมโครบีดส์ (Microbeads) หรือ เม็ดบีดส์ คือ ชิ้นส่วนเล็ก ๆ ของพลาสติกในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ยาสีฟัน น้ำยาทำความสะอาด และอื่น ๆ อีกมากมาย ส่วนใหญ่จะทำจากโพลีเอทิลีน แต่สามารถทำจากพลาสติกปิโตรเคมีอื่น ๆ ได้ เช่น โพลีโพรพิลีนและโพลีสไตรีน มีขนาดเล็กกว่า 0.5 มิลลิเมตร พอที่จะการผ่านระบบกรองน้ำได้อย่างง่ายดาย ทำให้มีผลต่อสิ่งแวดล้อมคือด้วยขนาดที่เล็กและทำจากพลาสติกจึงไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติเมื่อเราใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไมโครบีดส์ เช่น ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ไมโครบีดส์ ก็จะไหลลงท่อจากบ้านเรือน และลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ และเมื่อปนเปื้อนในแหล่งน้ำสัตว์น้ำก็จะกินเข้าไป และสุดท้ายไมโครบีดส์ก็จะย้อนกลับมาที่ผู้บริโภค
บุกโรงงานผลิตถุงพลาสติกย่อยสลายได้ รับนโยบาย Bio Circular Green Economy (BCG) ปี 2563
ผลการศึกษาของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ ระบุว่าการหลุดรอดของเม็ดไมโครบีดส์สู่แหล่งน้ำในรัฐนิวยอร์คเพียงรัฐเดียว คิดเป็นน้ำหนักประมาณ 19 ตันต่อปี และเมื่อไมโครบีดส์อยู่ในแหล่งน้ำ มันจะดูดซึมสารเคมีเป็นพิษต่าง ๆ โดยเฉพาะโพลีคลอริเนตไบฟีนิล (PCBs) ซึ่งเป็นกลุ่มสารเคมีอินทรีย์ที่มีคลอรีนเป็นองค์ประกอบ สารเคมีเหล่านี้จะส่งผลต่อร่างกายโดยไปขัดขวางการทำงานของต่อมไร้ท่อและเป็นสารก่อมะเร็ง
อีก 12 ปี “ขยะพลาสติก” หมดไปจากไทย