น.ส.พรเพ็ญ สดศรีชัย ผู้อำนวยการ สำนักวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจ ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. กล่าวว่า เดือนพ.ย. 2562 เศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะชะลอตัว การส่งออกหดตัว 7.7 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งผลไปยังการผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัว
เศรษฐกิจไทยผ่านพ้นจุดต่ำสุด พบสัญญาณดีขึ้นไตรมาส 1 ปี 63
ด้านมูลค่าการนำเข้าสินค้า หดตัว 13.9 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นน้ำมันบางแห่ง
ส่วนด้านการใช้จ่ายภาครัฐ หดตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นผลมาจากพ.ร.บ.งบประมาณปี2563 ที่ยังไม่ประกาศใช้ ซึ่งคาดว่าในต้นปีหน้าจะเริ่มสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ และ การลงทุนภาคเอกชน หดตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันปีก่อน เพราะยังคงชะลอการลงทุน
มีเพียงภาคการท่องเที่ยว ที่ในเดือนพ.ย. 2562 โต 5.9 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากนักท่องเที่ยวจีน ผ่านมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม Visa on Arrival และนักท่องเที่ยว อินเดีย ไต้หวัน และรัสเซีย จึงคาดตลอดปีจะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติแตะ 39.9 ล้านคนตามเป้าหมาย
จากสถานการณ์ทั้งหมดนี้ ทำให้ ธปท. ประเมินว่าเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 จะโตใกล้เคียง 2.5 % ส่งผลให้อัตราเติบโตของเศรษฐกิจไทย หรือ จีดีพีปี 2562 โต 2.5 % ด้านการส่งออกติดลบ 3.3% ส่วนในปี 2563 คาดการณ์จีดีพีโต 2.8 % ท่ามกลางความเสี่ยงการค้าโลกที่ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ ยังมีประเด็น อัตราว่างการที่ ธปท. เห็นสัญญาณว่า เดือนพฤศจิกายนนี้ อยู่ระดับ 1.0 % ของผู้ที่อยู่วัยแรงงาน โตจากเดือนตุลาคมที่อยู่ที่ 0.9 % ซึ่งธปท.ประเมินว่ามาจาก แรงงานภาคการเกษตรกร อาจย้ายเข้าไปในภาคการบริการและก่อสร้าง รวมถึงเห็นการจ้างงานแบบรายวัน
แต่เชื่อว่าในปี2563 การจ้างงานจะดีขึ้น หากการส่งออก การลงทุน และการผลิตของภาคเอกชนเริ่มขยายตัว หลังมีการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐได้
คลังหั่น “จีดีพี”ไทยปีนี้โตแค่ 2.8%