หลายประเทศทั่วโลกจัดงานเฉลิมฉลองการก้าวเข้าสู่ปี 2020 ด้วยการแสดงดอกไม้ไฟสุดยิ่งใหญ่ตระการตา บรรยากาศในแต่ละประเทศจะเป็นอย่างไร เริ่มกันที่ นิวซีแลนด์และออสเตรเลีย ซึ่งเป็นเป็นประเทศแรกๆ ในโลกที่ได้นับถอยหลังฉลองปีใหม่ โดยที่เมืองโอ๊คแลนด์ ประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างมารวมตัวนับถอยหลังและชมการแสดงดอกไม้ไฟรอบๆ สกายทาวเวอร์ แลนด์มาร์กสำคัญของเมือง เช่นเดียวกับที่นครซิดนีย์ ของออสเตรเลีย ที่พยายามจะสร้างแสงที่สว่างที่สุดในซีกโลกใต้ ด้วยการจุดพลุ 1 แสนลูก พร้อมการยิงแสงสีประกอบ โดยพลุทั้งหมดถูกยิงขึ้นจากเรือ 7 ลำ ที่ลอยอยู่รอบอ่าวซิดนีย์ รวมถึงจากโรงละครโอเปราและสะพานซิดนีย์ฮาร์เบอร์
ออสเตรเลีย จุดพลุ 1 แสนลูก เฉลิมฉลองก้าวเข้าสู่ปี 2020
ต่างชาติเที่ยวไทยเพิ่ม 17% เพื่อเคาต์ดาวน์ปีใหม่
ที่กรุงปักกิ่ง ของจีน มีงานแสดงแสงสีเสียงสุดยิ่งใหญ่ภายในนิคมอุตสาหกรรมโส่วกัง ซึ่งจะเป็นหนึ่งในสถานที่จัดการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว 2020 ปีนี้จึงมีเหล่ามาสคอตโอลิมปิกมาร่วมทำการแสดงด้วย ส่วนที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีการจัดพิธีเชิญธงขึ้นสู่ยอดเสา รับปีใหม่
ส่วนที่ไต้หวัน ได้จัดการแสดงดอกไม้ไฟเหนืออาคารไทเป 101 โดยมีประชาชนร่วมชมเป็นจำนวนมาก
ที่เกาหลีใต้ เมื่อคืนนี้ประชาชนแห่ร่วมพิธีตีระฆังรับปีใหม่ ซึ่งเป็นพิธีที่มีมาแต่โบราณ โดยผู้รับหน้าที่ตีระฆัง คือ นายกเทศมนตรีกรุงโซล นักกีฬาเบสบอล และตุ๊กตามาสคอตเพนกวินชื่อดัง
ที่แยกชิบูยา ใจกลางกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น ประชาชนและนักท่องเที่ยวนับแสนคนไปรวมตัวนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่พร้อมๆกัน
ส่วนที่อ่าววิกตอเรีย ของฮ่องกง ซึ่งเคยเป็นหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญ ปีนี้ไม่มีการแสดงดอกไม้ไฟ มีเพียงการแสดงแสงสีเสียง ท่ามกลางบรรยากาศโกลาหลวุ่นวาย หลังกลุ่มผู้ประท้วงออกมารวมตัวจับมือเป็นห่วงโซ่มนุษย์ตามถนนสายหลัก จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องยิงแก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม
ข้ามไปยัง นครดูไบ ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการเงินการลงทุนของตะวันออกกลาง ก้าวเข้าสู่ปีใหม่ด้วยการจุดพลุอย่างสวยงาม เหนืออาคารเบิร์จ คาลิฟา ซึ่งเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลก
ที่รัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศแรกๆของยุโรปที่ได้ต้อนรับปี 2020 บรรยากาศในช่วงเที่ยงคืนของพระราชวังเครมลิน และจัตุรัสแดง ในกรุงมอสโก สว่างไสวไปด้วยดอกไม้ไฟ ที่ถูกจุดขึ้นเหนือท้องฟ้า
ส่วนที่กรุงปารีส ของฝรั่งเศส มีการจัดแสดงดอกไม้ไฟเหนือประตูชัย อาร์ก เดอ ทรียงฟ์ (Arc de Triomphe) รวมถึงการฉายภาพหอไอเฟลและพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ท่ามกลางการประดับประดาไฟอย่างสวยงามตลอดแนวถนนช็องเซลีเซ
เช่นเดียวกับวิหาร "อะโครโพลิส" ในกรุงเอเธนส์ ของกรีซ ที่สวยงามตระการตาด้วยสีสันจากดอกไม้ไฟ ขณะที่ประชาชนแห่ไปรวมตัวฉลองกันที่จัตุรัสกลางเมือง
ที่กรุงลอนดอน ของอังกฤษ ก็มีการแสดงดอกไม้ไฟสุดยิ่งใหญ่ รวมกว่า 12,000 ลูก เหนือหอนาฬิกาบิ๊กเบน
ปิดท้ายกันที่การแสดงดอกไม้ไฟเหนือซุ้มประตูบันเดนบูร์ก ในกรุงเบอร์ลิน ของเยอรมนี ปีนี้มีประชาชนมาร่วมงานกันอย่างเนืองแน่น เต็มทุกพื้นที่ตั้งแต่เวลา 3 ทุ่ม
และในช่วงเที่ยงตรงวันนี้ เราจะมีบรรยากาศงานเคาต์ดาวน์ที่จัตุรัสไทม์สแควร์ ในนครนิวยอร์ก ของสหรัฐฯ มาให้ได้ชมกันสดๆ ห้ามพลาด