ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ทวิตข้อความระบุว่า อิหร่านจะต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อความสูญเสียทั้งด้านชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนอิหร่านจะต้องชดใช้อย่างสาสม พร้อมย้ำว่า ถ้อยแถลงของตนไม่ใช่คำเตือนแต่เป็นคำขู่ หลังเกิดเหตุกลุ่มผู้ประท้วงโจมตีสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในอิรัก เนื่องจากไม่พอใจที่สหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มกลุ่มติดอาวุธกาตาอิบ เฮซบอลเลาะห์ (Kataib Hezbollah) ที่อิหร่านให้การสนับสนุน โดยมีฐานที่มั่นครอบคลุมพื้นที่ทางตะวันตกของอิรักและตะวันออกของซีเรีย
ทรัมป์ เตือนอิหร่านห้ามขู่สหรัฐฯ อีกเด็ดขาด
“ทรัมป์” ทวิตหนุนม็อบต้านรัฐบาลอิหร่าน
กลุ่มผู้ชุมนุมนับพันคนที่โกรธแค้นต่างพากันขว้างปาก้อนหินและจุดไฟเผาป้อมรักษาความปลอดภัยของสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงแบกแดด เมืองหลวงของอิรัก ก่อนจะบุกเข้าไปในบริเวณพื้นที่รับรอง ส่งผลทำให้กำลังทหารสหรัฐฯ ต้องเปิดฉากยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วงเพื่อระงับเหตุ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอิหร่านได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของประธานาธิบดีทรัมป์ พร้อมประณามคำกล่าวอ้างที่ไร้มารยาทของผู้นำสหรัฐฯ ด้วย
ทั้งนี้ กองทัพสหรัฐฯ ระบุว่าปฏิบัติการทางอากาศโจมตีกลุ่มกาตาอิบ เฮซบอลเลาะห์ สังหารนักรบของกลุ่มอย่างน้อย 25 คนนั้น มีขึ้นเพื่อตอบโต้ต่อกรณีที่กองกำลังติดอาวุธดังกล่าวยิงจรวดโจมตีฐานทัพในอิรัก จนเป็นเหตุทำให้เจ้าหน้าที่พลเรือนอเมริกันเสียชีวิตก่อนหน้านี้ ขณะที่ นายมาร์ค เอสเปอร์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของสหรับฯ ประกาศว่า จะส่งกำลังทหารจากกองพลส่งทางอากาศที่ 82 อีกประมาณ 750 นายเข้าไปประจำการเพิ่มเติมในภูมิภาคตะวันออกกลาง ตามคำสั่งของประธานาธิบดีในการปกป้องพลเรือนและผลประโยชน์ของประเทศชาติ