เปิดภาพตลอด 1 เดือน ปัญหา ‘ขี่รถย้อนศร’ 5 จุดหลักกรุงเทพฯ-ปทุมธานี ยังไม่เปลี่ยน!
เข้ามอบตัว! หนุ่ม ขี่จยย.ย้อนศรพุ่งชนเด็กหญิง อ้างหนีเพราะกลัวความผิด
โดยผู้สื่อข่าว PPTV Online ได้ลงพื้นที่บริเวณใต้สถานี BTS หมอชิต เนื่องจากเป็นจุดหนึ่งที่พบรถจักรยานยนต์ขับขี่ย้อนศรเป็นจำนวนมาก จากการสอบถาม วินรถจักรยานยนต์ประจำจุดบริเวณ BTS หมอชิต ระบุว่า ปกติจะต้องขับไปกลับรถที่ห้าแยกลาดพร้าว เพื่อเข้าสถานีขนส่งหมอชิต2 เนื่องจากไม่มีจุดกลับรถบริเวณใกล้ ๆ แต่ถ้าย้อนศรจะมีระยะทางที่สั้นลงกว่าเดิม ทำให้ใช้เวลาน้อย รวมถึงเลี่ยงรถติดชั่วโมงเร่งด่วน
“ต้องไปกลับที่ห้าแยกลาดพร้าว แต่ถ้าออกไปทางนี้ ลัดจะใกล้กว่า บางทีคนรีบ ลูกค้ารีบ คือ ระยะทางก็สั้นลง แล้วก็เวลาที่ใช้ก็น้อยลง ก็คือความสะดวก คือ แถวนี้ไม่มีที่จุดกลับรถ ลองคิดดูต้องไปอ้อมวิภาวดี หรือถ้าจะยูเทิร์นกลับมาฝั่งนี้ ก็ต้องไปยูเทิร์นห้า แยกลาดพร้าว ไปมาเข้าตรอง อตก. แล้วก็เลี้ยงเข้าหมอชิต รวม ๆ ก็คือ ระยะทางมันไกลกว่า ทางนี้มันสั้นกว่า แล้วก็เร็วกว่า ทำเวลาได้ดีกว่า”
วินรถจักรยานยนต์ กล่าวต่อว่า ลูกค้าเห็นด้วยกับการขี่ย้อนศร บางวันไปทางปกติ ลูกค้าจะถามว่าทำไมไม่ไปทางลัด ส่วนตัวมองว่าทางที่ถูกกฎหมายทำให้เสียเวลา เพราะวินรถจักรยานยนต์ต้องทำรอบ
“เวลาที่ลูกค้า สมมติว่ามาถึงเลย พี่เดี๋ยวจะ 10 โมงแล้ว เหลือเวลา 5 นาที พี่รีบ ๆ ให้หน่อยนะ เร็ว ๆ ให้หน่อย อะไรอย่างนี้ คือ ลูกค้าก็โอเคด้วย กับการย้อนศร”
จักรยานยนต์ซิ่งย้อนศรบน ถ.พระราม 3 พุ่งชนกระบะยับ ดับ 2
โซเชียลจวก รถยนต์ขับเลยซอย ถอยย้อนศร ทำวินฯเสียหลักล้ม โดนกระบะเหยียบหัว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามความคิดเห็นประชาชนผู้ใช้บริการ โดยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการขี่จักรยานยนต์ย้อนศร เพราทำให้เกิดความเสี่ยงอันตราย จนทำให้เกิดอุบัติเหตุได้กับตัวผู้ขับขี่ และผู้ร่วมใช้ถนน แม้จะใช้เวลาเดินทางนานกว่าตามที่วินรถจักรยานยนต์ระบุ แต่ก็อยากให้มีความปลอดภัย
“เคยเห็นบ่อยมาก ไม่เห็นด้วย เพราะว่ามันผิดกฎ แล้วก็อันตรายต่อชีวิต ทำให้เกิดอุบัติเหตุ นอกจากจะเกิดที่ตัวเรา อาจจะเกิดที่คนอื่นได้ ส่วนการที่บอกมีความจำเป็น ไม่เห็นด้วย ถึงแม้เวลามันจะนานหน่อย ก็คืออยากให้มีความปลอดภัยมากกว่า”
นอกจากนี้บางราย ระบุว่า เคยขึ้นวินรถจักรยานยนต์ที่ขี่ย้อนศร บางครั้งพาขึ้นฟุตปาธ หรือเจอรถวิ่งสวนมา ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย หากทราบก่อนว่าจะพาขี่ย้อนศร ก็จะขอเปลี่ยนไปขึ้นคันอื่นแทน
“รู้สึกค่อนข้างกลัวอันตรายเหมือนกัน เพราะว่าบางทีเขาก็ขึ้นฟุตปาธบ้าง บางทีก็มีรถ อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ ก็รู้สึกเป็นเรื่องที่ไม่สมควร แต่ตอนนั้น พอใช้บริการแล้วเราก็ไม่รู้จะยังไงต่อ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเขาจะพาเราย้อนศรอย่างนี้ ถ้าเกิดรู้ก่อนหน้าว่าเขาจะพาเราย้อนศร ก็อาจจะขอเปลี่ยนเป็นคันอื่น”
ทั้งนี้จากการค้นข้อมูลในเว็บไซต์ กรมการขนส่งทางบก พบว่าช่วงปี 2562 (ต.ค.2561-2562) มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 132,696 ครั้ง หรือ เฉลี่ยเดือนละ 11,058ครั้ง โดยประเภทรถที่เกิดอุบัติเหตุมาที่สุดคือ รถจักรยานยนต์ มีจำนวน 34,164 ครั้ง (ร้อยละ 28.75) รองลงมา คือ รถยนต์นั่ง 27,286 ครั้ง (ร้อยละ 20.56) และรถบรรทุกเล็ก (ปิคอัพ) 16,157 ครั้ง (ร้อยละ 12.18) ตามลําดับ
