อดีตขุนคลัง ติงแบงก์ชาติไม่แทรกแซงบาทแข็ง ปล่อยแตะ 30 บาท/ดอลลาร์
“สนธิรัตน์” รับบาทแข็งกระทบประเทศ ยันรัฐบาล “ทุ่มเท” แก้ปัญหาเศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ (3 ม.ค.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่าเงินบาทไทยเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 30.14 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ จากปิดตลาดเย็นวานนี้ (2 ม.ค.63) ที่ระดับ 30.14 – 30.16 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลหลัก เพราะตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดีส่งผลให้มีแรงซื้อดอลลาร์สหรัฐฯกลับเข้ามาในตลาด
นายเกรียงไกร เธียรนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ภาคเอกชนกำลังติดตามค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิดด้วยความวิตกกังวล หลังจากช่วงส่งท้ายปีที่ผ่านมาหลุดกรอบ 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เพราะจะกระทบต่อการส่งออกของไทย ขณะที่การลดดอกเบี้ยนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าเป็นมาตรการที่ใช้ไม่ได้ผล และปีนี้หากส่งออกได้รับผลกระทบที่รุนแรง บวกกับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 5-6 บาทต่อวัน แม้เป็นอัตราที่ปรับขึ้นไม่มากนัก แต่จะทำให้ธุรกิจที่แย่อยู่แล้วต้องปรับตัวหนีตาย และหนึ่งในกลไกสำคัญคือการลดคนงาน และจะเห็นการปลดคนงานเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปีนี้ หากเงินบาทยังแข็งค่า
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความกังวลต่อค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ระบุว่า ได้หารือกับทางธนาคารแห่งประเทศไทยมาตลอด ทั้งยังตั้งคณะกรรมการเพื่อดูแลเสถียรภาพการเงิน จากกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ เพื่อติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด
ด้านนายยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ อีไอซี ได้ประเมินไว้ว่า ค่าเงินบาทในปีนี้ จะยังเผชิญแรงกดดันด้านแข็งค่าอยู่ต่อเนื่อง แต่ในอัตราที่น้อยลงจากปี 2562 โดยกรอบค่าเงินบาทจะอยู่ที่ราว 29.5 - 30.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นปี 2563 โดยกลุ่มผู้ส่งออกที่ใช้วัตถุดิบ สินค้าเกษตร สิ่งทอ หรือสินค้าที่ใช้การแข่งขันด้านราคาจะได้รับผลกระทบมาก ในระยะสั้นจึงแนะนำให้ป้องกันความเสี่ยงความผันผวนของค่าเงิน และเร่งเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต เพราะสินค้าที่แข่งขันด้านราคาจะถูกกระทบมาก
