ไทยยันมีแผนรับมือราคาน้ำมัน หลังความขัดแย้งสหรัฐฯ –อิหร่าน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ราคาทองพุ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 6 ปี หลังกังวลสถานการณ์สหรัฐฯ – อิหร่าน จะรุนแรงและยืดเยื้อ หนุนราคาทองคำในประเทศพุ่งขึ้นถึงบาทละ 350 บาท ราคาทองรูปพรรณทะลุบาทละ 23,000 บาทแล้ว ขณะที่กระทรวงพลังงาน เตรียมแผนพร้อมรับมือราคาน้ำมันพุ่ง

“จีน” ยื่นมือช่วย “อิหร่าน” รักษาสันติภาพในตะวันออกกลาง

ตรวจสอบกำลังพลสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง

ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐออกแถลงการณ์เตือนว่า อิหร่านอาจใช้ขีปนาวุธหรือโดรนเพื่อโจมตีพื้นที่ใกล้ฐานทัพทหารและแหล่งน้ำมันในซาอุดีอาระเบีย โดยถ้อยแถลงดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่า การผลิตและการลำเลียงน้ำมันในซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก จะได้รับผลกระทบ

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ย้ำว่า กระทรวงพลังงานได้ติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด  เบื้องต้นประเมินว่า สถานการณ์นี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อน้ำมันสำรองของไทย  ที่ยังมีสำรองใช้ได้ถึง 50 วันตามมาตรฐาน รวมถึงก๊าซแอลพีจี สำหรับภาคครัวเรือนยังมีสำรองใช้ได้อยู่ที่ 17 วันตามมาตรฐานเช่นกัน ปัจจุบันราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 69 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยหากราคาน้ำมันดิบดูไบขึ้นไปถึง 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ทางกระทรวงพลังงานก็พร้อมนำเงินกองทุนน้ำมันฯ มาช่วยอุดหนุนราคาน้ำมันเพื่อช่วยพยุงราคาน้ำมันในไทยไม่ให้ราคาเกิดความผันผวนจนส่งผลกระทบต่อประชาชน ซึ่งขณะนี้สถานะกองทุนน้ำมันฯ มีอยู่ประมาณ 37,000 ล้านบาท

สำหรับแผนการระยะยาว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ไทยได้มีการเตรียมแผนรองรับมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยปัจจุบันได้ปรับลดสัดส่วนการนำเข้าน้ำมันจากตะวันออกกลาง จากเดิมที่ 74% ลดลงเหลือ 50% รวมถึง พร้อมเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบในประเทศฉุกเฉินอีก 36,000 บาห์เรลต่อวัน จากปกติที่ 130,000 บาร์เรลต่อวัน และจะขอความร่วมมือในการงดส่งออกอีก 25,000 บาร์เรลต่อวัน

ในส่วนของราคาทองคำตลาดโลก ก็พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 6 ปี ทำให้ราคาทองคำในประเทศ เปิดตลาดวันนี้   ปรับตัวขึ้นทันทีบาทละ 350 บาท โดยระหว่างวันราคายังมีความผันผวนปรับราคาขึ้น – ลง  3  ครั้ง รวมปรับราคาขึ้น 350 บาท ส่งผลให้ราคาทองคำแท่ง รับซื้อ 22,400บาท ขายออก  22,500 บาท ราคาทองรูปพรรณ รับซื้อ 21,997.16 บาท ขายออก  23,000  บาท

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวทำสถิติสูงสุดในรอบ 6 ปี ที่ 1,588 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ คาดว่าภายในสัปดาห์นี้มีโอกาสที่จะเห็นราคาทองคำปรับขึ้นไปถึง 1,600 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ถ้าสถานการณ์การตอบโต้ระหว่าง 2 ชาติยังยืดเยื้อ ซึ่งคาดว่าอาจจะลากยาวไปถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในเดือนพฤศจิกายน 2563 ประกอบกับมีกระแสข่าวจีนจะเลื่อนการลงนามการค้าเฟสแรกกับสหรัฐอเมริกา จากเดิมกำหนดไว้วันที่ 15 มกราคมนี้ ทำให้นักลงทุนยิ่งกังวล และมองทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยจึงมีแรงซื้อเข้ามามากใกล้ช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นเทศกาลที่คนนิยมซื้อทองคำ ส่งผลให้มีความต้องการซื้อทองคำมากกว่าปกติ

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ และประธานห้างทองจินฮั้วเฮง กล่าวว่า นักลงทุนกำลังติดตามสถานการณ์ระหว่างสหรัฐ-อิหร่านอย่างใกล้ชิด เพราะเกรงว่าจะรุนแรงจนเกิดเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ซึ่งเชื่อว่าความตึงเครียดจะยืดเยื้อ ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้น โดยมีแนวต้านที่ 1,600 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

ด้านตลาดหุ้นทั่วโลกก็ยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง  โดยเฉพาะตลาดหุ้นในเอเชีย และตลาดหุ้นไทย เนื่องจากกังวลสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง และยังเผชิญแรงกดดันจากโรคระบาดปอดอักเสบ โดยตลาดหุ้นไทยปิดตลาด ปรับตัวลดลง 26.47 จุด อยู่ที่ระดับ 1,568.50  จุด  มูลค่าการซื้อขายกว่า 71,000 ล้านบาท

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ