ไทยพบผู้สงสัยป่วยอู่ฮั่นเพิ่ม 1 ราย นำส่งห้องแยกโรคสถาบันบำราศฯ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




อธิบดีกรมควบคุมโรคเผย มีผู้ป่วยสงสัยอู่ฮั่น 5 ราย ตรวจเชื้อแล้ว 4 ราย เบื้องต้นปลอดเชื้อไวรัสอู่ฮั่น 3 ราย อีก 1 รายรอยืนยันอีกครั้ง ขณะที่รายล่าสุดอยู่ระหว่างสอบสวนโรค

กรณีการเฝ้าระวังโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสที่ระบาดในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน หลังจากพบผู้ป่วยต้องสอบสวนโรค 4 ราย อยู่ที่ห้องแยกโรคสถาบันบำราศนราดูร 3 ราย และ รพ.เอกชน 1 ราย โดยในส่วนของ ด.ช.ชาวจีนอายุ 3 ขวบ ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ (แล็บ) ออกมาทั้ง 2 ครั้งว่า เป็นไข้หวัดใหญ่ H3N2  อีก 2 รายไม่พบเชื้ออูฮั่น แต่รอยืนยันอีกครั้ง

โล่งอก! ผลตรวจผู้ป่วยมาไทย 4 รายไม่พบเชื้อไวรัสอู่ฮั่น

ฮ่องกงพบผู้ป่วยอาการคล้ายปอดอักเสบอีก 7 คน

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 8 ม.ค. 2563   นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)  กล่าวว่า  ในรายของ ด.ช.ชาวจีนชัดเจนแล้วว่ามาจากไข้หวัดใหญ่ อาการดีขึ้น ไม่มีไข้ให้กลับบ้านไปแล้ว ส่วนรายที่สองนักศึกษาหญิงไทย ผลตรวจแล็บครั้งที่สองออกมาว่า เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ C อาการดีขึ้น ไม่มีไข้ จึงให้ผู้ป่วยกลับบ้านในช่วงสายของวันที่ 8 ม.ค. ดังนั้น ขณะนี้ผู้ป่วย 4 รายให้กลับบ้านได้แล้ว 2 รายเพราะชัดเจนว่าไม่ได้เป็นเชื้อไวรัสที่เกี่ยวข้องกับการระบาดที่อู่ฮั่น

นพ.สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า ส่วนรายที่ 3 เป็นนักศึกษาหญิงไทยเช่นกัน ผลตรวจแล็บทั้ง 2 ครั้ง พบว่าเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งได้ให้ยาปฏิชีวนะ อาการก็ดีขึ้นตามลำดับ แต่ต้องรอให้สบายดีและไข้ลดลงก่อน คาดว่าภายในวันที่ 9 ม.ค.ก็สามารถกลับบ้านได้ ส่วนรายที่ 4 ที่รักษาตัวอยู่ที่ รพ.เอกชน ทางรพ.เอกชนได้รายงานมาว่า ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอผลตรวจแล็บที่ครบถ้วนรอบด้านอีกครั้งหนึ่งก่อน

สุวรรณภูมิ ติดเครื่องวัดไข้อัตโนมัติ คัดกรองผู้โดยสาร ป้องกันเชื้อปอดอักเสบ

“ล่าสุดได้รับรายงานว่า มีสายการบินจากอู่ฮั่นที่บินตรงมาลงยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 8 ม.ค. ซึ่งด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศได้คัดกรองพบหญิงชาวจีนรายหนึ่งมีอาการไข้ ซึ่งเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค จึงได้แยกออกมาเพื่อไม่หให้สัมผัสกับผู้อื่น และส่งมายังห้องแยกโรคที่สถาบันบำราศฯ เพื่อทำการรักษา สอบสวนโรค ซักถามประวัติหารายละเอียด และทยอยเก็บสิ่งส่งตรวจทางแล็บ ซึ่งต้องรอผลการสอบสวนโรคอีกครั้งหนึ่ง” นพ.สุวรรณชัย กล่าว

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า  สำหรับผู้ที่เดินทางมาไฟลท์เดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งอยู่ด้านข้าง ด้านหน้า และด้านหลังของผู้ป่วยรายนี้ ก็จะมีการติดตามว่ามีอาการไข้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่ผู้ที่นั่งใกล้ชิด แต่เรามีการให้คำแนะนำแก่ผู้โดยสารทั้งหมดว่าหากมาอยู่ในประเทศไทยแล้วเกิดมีอาการไข้ให้รีบติดต่อเข้ามา ซึ่งในการเฝ้าระวังนั้นจะยึดตามระยะเวลาการฟักตัวของโรคนานที่สุด คือ 14 วัน หากภายใน 14 วันนี้ไม่มีไข้ ก็ถือว่าไม่มีการติดเชื้อใดๆ

 

เมื่อถามถึงการเฝ้าระวังทางฮ่องกงและสิงคโปร์หลังพบรายงานผู้ป่วยด้วยเช่นกัน  นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ในส่วนของสิงคโปร์นั้นมีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 1 ราย ซึ่งทางสิงคโปร์ได้สอบสวนโรคแล้วพบว่า มาจากไวรัสตัวอื่น ไม่เกี่ยวกับที่จีน จึงไม่มีอะไรต้องกังวล ส่วนที่ฮ่องกงมีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคหลายราย ซึ่งขณะนี้ทางฮ่องกงยังไม่ได้ประกาศผลการตรวจและสอบสวนโรคว่า เกี่ยวข้องกับการระบาดที่จีนหรือไม่ ซึ่งกรมฯ จะมีการติดต่อประสานงานข้อมูลอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ในช่วงภาวะอากาศเย็นของจีน ทุกประเทศก็มีการดำเนินการป้องกันเฝ้าระวังไว้ก่อน ทั้งฮ่องกง ไต้หวัน ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม ซึ่งจะดีที่สุดหากไม่พบลักษณะการระบาดของจีนในประเทศ

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ