เป็นเรื่องที่ต้องติดตามแม้ล่าสุดนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จะออกมาประกาศมาตรการตอบโต้อิหร่านที่ยิงขีปนาวุธใส่ฐานทัพสหรัฐในอิรัก ว่า จะไม่ตอบโต้ด้วยอาวุธ แต่จะออกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ แต่ก็ยังพบว่า มีจรวดตกในเขตกรีรนโซนใกล้ๆสถานทูตสหรัฐ จึงยังคาดเดาได้ยากว่าทิศทางจะเป็นอย่างไร
วิเคราะห์สาเหตุจุดแตกหัก ‘ อิหร่าน-สหรัฐ’
โซเชียลแชร์คลิป ปชช.อิหร่าน เปิดใจถึง “ทรัมป์”
แต่ก่อนจะวิเคราะห์ทิศทางใดๆ เราลองมาดูไทมไลน์สำคัญก่อนจะถึงจุดแตกหักตามที่เป็นข่าวไปทั่วโลกกันก่อน...
3 ม.ค.63 (เวลาในประเทศไทย) ประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ ของสหรัฐ สั่งเปิดปฏิบัติการส่งโดรนไร้คนขับยิงจรวดโจมตีทางอากาศ ในประเทศอิรัก เป้าหมายสังหาร "พลเอกคาเซม โซเลมานี" ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ ซึ่งถือเป็นทหารคนสำคัญและเป็น"มือขวา"ของ "อยาตอลลาห์อาลี คาเมเนอี" ผู้นำสูงสุดอิหร่าน การโจมตีครั้งแรกนี้ มีผู้เสียชีวิต 8 ราย รวมทั้ง "นายพลโซเลมานี" ซึ่งสร้างความโกรธแค้นให้กับอิหร่าน จนประกาศแก้แค้นสหรัฐอย่างสาสม
4 ม.ค.63 ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ประกาศเตรียมล้างแค้นและทำการชักธงแดง เพื่อการรบบนยอดสุเหร่าศักดิ์สิทธิ์จามคารานเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
รู้จัก “นายพลโซเลมานี” ผู้ถูกสหรัฐสังหาร ผลพวงต่อนานาประเทศ
5 ม.ค.63 ต่อมาประธานาธิบดีทรัมป์ เตือนว่า สหรัฐ ล็อกเป้าสถานที่สำคัญของอิหร่าน 52 แห่ง และจะเปิดฉากโจมตีอย่างรวดเร็ว และหนักหน่วง หากอิหร่านโจมตีสหรัฐ เพื่อแก้แค้นให้โซเลมานี พร้อมให้เหตุผลว่าตัวเลข 52 นั้นหมายถึงชาวอเมริกัน 52 คนที่เคยถูกอิหร่านจับเป็นตัวประกันเมื่อหลายปีก่อน
6 ม.ค. 63 ระหว่างพิธีศพของนายพลโซเลมานี ในเมือง”มาชาด” กลุ่มสมาชิกรัฐสภาได้ออกมาเรียกร้องให้ชาวอิหร่าน บริจาคเงินคนละ 1 ดอลลาร์ เพื่อให้ได้ครบ 80 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2,400 ล้าบาท สำหรับเป็นค่าหัวหากใครสามารถจับตัวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้
7 ม.ค. 63 อิหร่านเริ่มยิงขีปนาวุธนับสิบลูกถล่มฐานทัพอากาศ “อัล อาซาด” ของสหรัฐในอิรัก ซึ่งมีทหารสหรัฐประจำการอยู่ ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเสร็จสิ้นพิธีฝังศพนายพลโซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ของอิหร่าน ที่ถูกลอบสังหาร
อิหร่านแถลงการณ์ยิงขีปนาวุธ เป็นการตอบโต้ "ทรัมป์"
8 ม.ค. 63 หลังจากนั้นประธานาธิบดีทรัมป์ทวีตข้อความว่า “ทั้งหมดยังอยู่ดี! ขีปนาวุธที่ยิงมาจากอิหร่าน 2 ลูก โจมตีฐานทัพ 2 แห่ง ในอิรักนั้น พร้อมทั้งยังระบุว่า กองทัพสหรัฐทรงพลัง และมียุทโธปกรณ์เพียบพร้อมอยู่ทุกที่ในโลก พรุ่งนี้เช้าจะออกแถลงการณ์”
9 ม.ค.63 ประธานาธิบดีทรัมป์ แถลงข่าวครั้งแรกเกี่ยวกับกรณี อิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพ โดยตัดสินใจไม่ตอบโต้ด้วยมาตรการทางทหาร และยังระบุว่า “ความเข้มแข็งของอเมริกันทั้งในทางทหารและทางเศรษฐกิจ เป็นการป้องปรามที่ดีที่สุด แม้ว่าเรามีกำลังทหารและยุทโธปกรณ์ที่ยิ่งใหญ่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะต้องใช้มัน ดูเหมือนอิหร่านจะผ่อนท่าทีลง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง”
ประธานธิบดีทรัมป์ ประกาศจะคว่ำบาตรทางการเงิน และเศรษฐกิจของอิหร่านเพิ่มขึ้นอีกในทันที และจะคงการคว่ำบาตรไว้จนกว่ารัฐบาลเตหะรานจะเปลี่ยนท่าที โดยอิหร่านต้องทิ้งความทะเยอทะยานทางนิวเคลียร์ และยุติการสนับสนุนผู้ก่อการร้าย
วิเคราะห์ “อิหร่าน” ล้างแค้น “สหรัฐ” ผลต่อเศรษฐกิจโลกและก่อการร้าย
ภาพจาก AFP
เกาะติดสถานการณ์อิหร่าน สหรัฐ > //www.pptvhd36.com/special/อิหร่านสหรัฐ