เสียงบทสนทนาของผู้ชาย 2 คน นี้ถูกระบุว่า เป็นของนายตำรวจที่กำลังพูดคุยเกี่ยวกับคดีของพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษ ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หลังถูกคนร้ายบุกยิงถล่มรถเมื่อวันที่ 6 ม.ค.
“ประวิตร” จ่อเคลียร์ใจ “ผบ.ตร.-บิ๊กโจ๊ก” ยันไม่รู้คลิปเสียงลับ
โดยปลายสายพูดถึงการทำหน้าที่ของอีกฝ่ายมาว่า ไม่ควรเข้าไปยุ่ง ควรมีวุฒิภาวะและควรปล่อยให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล เป็นผู้ดำเนินการตามกฎหมาย และควรทำให้ผู้บังคับบัญชาไว้วางใจ
โดยคลิปเสียงนี้ถูกตั้งข้อสังเกตว่า น้ำเสียงคล้าย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สนทนากับพล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขณะ พล.ต.อ.จักรทิพย์เดินทางไปต่างประเทศ
ผบ.ตร. ระบุ “จะเป็นไปได้ยังไง” คืนตำแหน่ง “บิ๊กโจ๊ก”
ด้าน พล.ต.อ.วิระชัย ที่แม้กำลังถูกตั้งข้อสังเกตว่า ผบ.ตร.สั่งให้หยุดการเข้าไปทำคดี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ วันนี้ยังคงเดินทางไปตรวจสอบรถยนต์เล็กซัสที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ที่ตั้งอยู่ในบริเวณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงว่า ยังไม่ได้ฟังและไม่ทราบว่ามีคลิปหลุดเสียงสนทนาที่มีเสียงคล้าย ตัวเองและไม่ได้บอกว่าเป็นเสียงของตัวเองจริงหรือไม่ แต่ยอมรับว่า เคยรายงานผลการสืบสวนสอบสวนทางคดี กรณีคนร้ายบุกยิงถล่มรถ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ทางโทรศัพท์จริง และไม่ขอบอกว่าพูดคุยครั้งล่าสุดเมื่อใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเป็นการดักฟังหรือไม่ พล.ต.อ.วิระชัย ยอมรับว่า ส่วนตัวรู้สึกกังวลว่าจะถูกดักฟัง เพราะทุกคนก็รู้ว่าเทคโนโลยีทุกวันนี้สามารถทำได้และขอเวลาตรวจสอบเรื่องนี้ก่อน ส่วนที่พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ระบุว่ารู้ตัวคนทำ ถือเป็นคำให้การจะพูดอย่างไรก็ได้ เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตามพยานหลักฐาน
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมาระบุว่า ส่วนตัวไม่ทราบว่าหลุดมาจากไหน และใครเป็นคนอัดมาเผยแพร่ และอยากทราบว่าใครทำ เพราะโดยมารยาทแล้ว การสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างบุคคลนั้น ไม่ควรอัดบทสนทนาเอาไว้ ยกเว้นคู่สนทนาจะมีเจตนารมย์แอบแฝงในทางที่ไม่ดีกับอีกฝ่ายหนึ่ง
ไม่ฟันธง! จงใจหรือสร้างสถานการณ์ กรณีบุกยิงรถ “บิ๊กโจ๊ก” กลางดึก
แกะรอยวงจรปิดหาเบาะแสมือปืนยิงถล่มใส่รถ “บิ๊กโจ๊ก”