เมื่อวานนี้ (9 ม.ค.63) หว่างการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น (UN) เคลลี คราฟท์ เอกอัคราชทูตสหรัฐอเมริกา ระบุว่า การตัดสินใจของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่สั่งสังหาร นายพล คาเซม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังพิเศษของอิหร่าน เป็นผลโดยตรงมาจากการที่กลุ่มติดอาวุธ ซึ่งอิหร่านสนับสนุน ได้ก่อเหตุโจมตีเพิ่มมากขึ้นต่อทหารและผลประโยชน์ของสหรัฐอเมริกา ในตะวันออกกลาง
ด่วน! อิหร่าน เปิดฉากยิงขีปนาวุธ ถล่มฐานทัพสหรัฐฯ ในอิรัก
ย้อนไทม์ไลน์จุดแตกหัก ‘อิหร่าน-สหรัฐ’
โดย คราฟท์ ยืนยันว่า สหรัฐฯจะดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพิ่มเติ เพื่อปกป้องบุคลากรและผลประโยชน์ของประเทศ ในตะวันออกกลาง
ทั้งนี้ คราฟท์ ได้ระบุในหนังสือที่ยื่นต่อสหประชาชาติว่า สหรัฐฯ พร้อมจะเจรจากับอิหร่านอย่างจริงจัง โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้นเพื่อ รักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค
ขณะที่ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศระบุว่า จะไม่ปล่อยให้อิหร่านครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ พร้อมเรียกร้องชาติมหาอำนาจถอนตัวจากข้อตกลงจำกัดการพัฒนานิวเคลียร์ที่ทำไว้กับอิหร่านเมื่อปี 2015 และ จัดทำข้อตกลงใหม่
อย่างไรก็ตาม อิหร่าน ปฏิเสธที่จะเจรจาจัดทำข้อตกลงด้านนิวเคลียร์ฉบับใหม่ ตามที่ทรัมป์ เรียกร้อง
อิหร่านแถลงการณ์ยิงขีปนาวุธ เป็นการตอบโต้ "ทรัมป์"