นางพัชรี อาระยะกุล รองปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ระบุกรณี ที่ประธานมูลนิธิบ้านสุขใจ แสดงความจำนงจะขอรับเด็กวัย 3 ขวบที่ถูกแม่ทอดทิ้ง
หนูน้อย 2 ขวบถูกแม่ทิ้ง สภาพจิตใจปกติ ไม่งอแง ไม่ร้องหาแม่
โดยเปิดเผยว่า การจะรับเด็กไปอุปการะจะต้องผ่านกระบวนการประเมินจากนักสังคมสงเคราะห์เพื่อให้มั่นใจว่าเด็กจะสามารถอยู่ในครอบครัวอุปถัมภ์ได้อย่างปลอดภัยและมีความสุข
โดยเกณฑ์ในการประเมินจะดูจากฐานะ , ประวัติอาชญากรรม , ผลตรวจโรคจิตเวช รวมไปถึงถ้ามีบุตรเดิมอยู่แล้ว จะต้องได้รับความยินยอมจากบุตรทุกคนให้สามารถรับอุปการะบุตรเพิ่มได้ โดยเมื่อผ่านการประเมินทั้งหมดนี้ จะต้องผ่านการทดลองเลี้ยงดูประมาณ 1 ปี ซึ่งนักสังคมสงเคราะห์จะเข้าไปทดสอบสภาพจิตใจเด็กทุกสามเดือน ว่าเด็กอยู่กับครอบครัวนี้แล้วเป็นอย่างไร มีความสุขหรือไม่ เมื่อผ่านกระบวนการทดลองเลี้ยงดูแล้วจึงจะสามารถยื่นเรื่องขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมได้
นางพัชรี ระบุเพิ่มเติมว่า ล่าสุดแม่ของน้องสามขวบ ได้เข้ามาเซ็นยินยอมให้สถานสงเคราะห์ดูแลเด็กแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ในระหว่างกระบวนการประเมินผู้ขอรับอุปการะเด็กจะถูกส่งไปพักอาศัยที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งน่าจะเป็นสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพญาไท หรือ สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนปากเกร็ด
เปิดใจ “แม่เพ็ญ” ผู้ใจบุญ ยื่นขอรับเลี้ยงหนูน้อยถูกแม่ทิ้ง
สุดสงสาร! แม่ใจร้ายมีครอบครัวใหม่ ทิ้งลูก 2 ขวบให้สถานสงเคราะห์ อ้างเลี้ยงไม่ไหว