ชัดเจนแจ่มแจ้งแบบไม่มีการหมกเม็ด สำหรับการประกาศลาออกของรัฐมนตรีรัสเซียทั้งคณะ เพื่อเปิดทางให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แก้ไขรัฐธรรมนูญปูทางให้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเปรียบได้กับเดี่ยวมือสอง ขึ้นมามีอำนาจหน้าที่ในการบริหารประเทศแทนประธานาธิบดี
คณะรบ.รัสเซีย ประกาศลาออกยกชุด เปิดทาง “ปูติน” แก้รัฐธรรมนูญ
และไม่ต้องแปลกใจเลย ถ้านายปูติน ซึ่งหมดสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกแล้ว จะก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดใหม่ ส่วนประธานาธิบดีซึ่งจะเป็นใครก็ได้ มีหน้าที่เพียงลงนามรับรองตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีเท่านั้น โดยไม่มีสิทธิแต่งตั้งหรือปลดใครออกทั้งสิ้น
แต่นักวิเคราะห์บางรายมองว่า ปูตินอาจไม่สนใจตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แล้วหันไปนั่งเก้าอี้ประธานสภาที่ปรึกษา หรือ”State Council” แทน ก็เป็นได้ เพราะตำแนห่งที่ว่านี้ มีอำนาจระดับน้องๆ ประธานาธิบดี แถมตัวประธานสภาที่ปรึกษาเอง ก็มีอำนาจในการตัดสินใจเรื่องใหญ่ๆ แทนรัฐบาล หากคณะรัฐนตรีหาทางออกไม่ได้
แต่เสียงส่วนใหญ่เห็นแบบเดียวกันว่า ปูตินลงทุนสั่งให้รัฐบาลลาออกทั้งคณะ แถมยังแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้นายกรัฐมนตรีมีอำนาจเหนือประธานาธิบดี แล้วตัวเองจะไม่เป็นนายกรัฐมนตรีให้เสียเวลาทำไม
แต่ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งไหน เชื่อขนมกินได้เลยว่า ปูตินจะยังคงครอบครองอาณาจักรรัสเซียอย่างเหนียวแน่นต่อไป และไม่มีใครกล้าพอที่จะลองดีให้ตัวเองเงาหัวไม่มีอย่างแน่นอน
หลายคนอาจสงสัยว่า ในเมื่อ ปูตินเคยสลับตำแหน่งกับน้องรักคือนายเมดเวเดฟนานถึง 4 ปี เมื่อปี 2008 แล้วทำไมไม่ทำอย่างนั้นอีก คำตอบก็ง่ายแสนง่ายคือ ปูตินยังไม่ได้แก้รัฐธรรมนูญ ให้ตัวเองครองตำแหน่งประธานาธิบดีไปตลอดชีวิต เหมือนเพื่อนสนิทที่ชื่อ สี จิ้นผิง แห่งแดนมังกรได้ทำมาแล้ว แต่จะด้วยเหตุผลกลใด มีเพียงปูตินเท่านั้นที่จะตอบได้
“ปูติน” ยืนยันลงเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีหน้า
