เมื่อวานนี้ ดร.จง หนานซาน ผู้เชี่ยวชาญจากคณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติจีน ซึ่งเคยมีบทบาทในการยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโรคซาร์ส เมื่อปี 2003 ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ CCTV ของทางการจีน โดยยอมรับว่า ขณะนี้เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ สามารถติดต่อระหว่างคนสู่คนได้แล้ว หมายความว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่อาจไม่จำเป็นต้องมีประวัติเดินทางไปเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นแหล่งแพร่ระบาดของเชื้อ
จีนยืนยันโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ติดจากคนสู่คน
WHO เผยโรคปอดอักเสบในจีนเป็น ‘ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่’
ดร.จง ระบุว่า แม้การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นจะทำให้หลายคนนึกย้อนไปถึงการแพร่ระบาดของโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือ ซาร์ส เนื่องจากมีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสโคโรนาเหมือนกัน และผู้ป่วยมีอาการใกล้เคียงกัน แต่แท้จริงแล้ว เชื้อไวรัส 2 ตัวนี้ มีธรรมชาติที่แตกต่างกัน และเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ก็ไม่ได้รุนแรงและเป็นอันตรายเท่ากับไวรัสโคโรนาที่เคยทำให้เกิดโรคซาร์ส
ผู้เชี่ยวชาญจากคณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติจีน เชื่อว่าโอกาสที่จะสกัดกั้นการแพร่ระบาดในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวจีนหลายร้อยล้านคนต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือไปท่องเที่ยวในต่างประเทศ แทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่ก็มั่นใจว่าการระบาดจะยังอยู่ในระดับที่สามารถรับมือได้
ด้านคณะกรรมการสาธารณสุขเมืองอู่ฮั่น ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 6 คนแล้ว โดยพบบุคลากรทางการแพทย์ที่ช่วยรักษาคนไข้ในเมืองอู่ฮั่น ติดเชื้อแล้ว 15 คน และมี 1 คนที่มีอาการวิกฤติ อย่างไรก็ตาม ทางการเมืองอู่ฮั่นยังไม่ได้ให้รายละเอียดว่าเจ้าหน้าที่ได้รับเชื้ออย่างไร
ไทยวางระบบป้องกัน หลังจีนยืนยันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ติดคนสู่คน
ส่วนยอดผู้ติดเชื้อในจีนล่าสุดอยู่ที่ 291 คน แบ่งเป็นในเมืองอู่ฮั่น 270 คน, กรุงปักกิ่ง 5 คน,นครเซี่ยงไฮ้ 2 คน และมณฑลกวางตุ้ง 14 คน นอกจากนี้ ยังมีผู้ป่วยที่ต้องสงสัยว่าติดเชื้อที่มณฑลเสฉวน ยูนนาน กวางสี และชานตง ด้วย
ด้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คำนึงถึงชีวิตและสุขภาพของประชาชนเป็นสำคัญ และดำเนินทุกมาตรการที่เป็นไปได้เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด เพื่อให้ประชาชนเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขกันอย่างสงบสุขและราบรื่น
ขณะที่ชาวจีนเริ่มตื่นตัวกับข่าวการแพร่ระบาดมากขึ้น มีรายงานว่าหน้ากากอนามัยในนครเซี่ยงไฮ้ขายดีจนหมดเกลี้ยงในเวลาอันรวดเร็ว ส่วนมูลค่าหุ้นของบริษัทยาและบริษัทผู้ผลิตหน้ากากอนามัยก็พุ่งขึ้นกว่า 10%
