เบื้องหลังการจับกุม ‘โจรปล้นทอง’ ลพบุรี พร้อมแรงจูงใจก่อเหตุ!!


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เปิดเบื้องหลังการจับกุมผู้ต้องหาชิงทองลพบุรี “ประสิทธิชัย เขาแก้ว” กับคำรับสารภาพต้องการความท้าทาย

หลังจากพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาชิงทองลพบุรี และยิงประชาชนจนเสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอีก 4 ราย  ซึ่งขณะนี้ได้จับกุมตัว และสอบสวนเพื่อรวบรวมหลักฐาน พร้อมจะแถลงข่าวอย่างละเอียดต่อสื่อมวลชนเวลา 10.30 น. วันที่ 23 ม.ค.2563

ผบ.ตร.ยืนยันจับคนร้ายปล้นทองลพบุรี ไม่มีจับแพะ รับสารภาพเอง

“บิ๊กป้อม” ยันจับโจรปล้นทองลพบุรีได้แล้ว ยอมสารภาพเอง

เปิดที่มาหน่วย “หนุมาน” ชุดปฏิบัติการพิเศษกองปราบฯ บุกจับ “ประสิทธิชัย เขาแก้ว”

สำหรับเบื้องหลังการจับกุมครั้งนี้มีรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุทาง พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. และ พ.ต.อ.วิจักษ์ ตารมย์ ผกก.สสน.บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการกองปราบฯ ลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนแกะรอยผู้ต้องหารายนี้ จนกระทั่งประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีของกองปราบฯได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีว่าคนร้ายที่น่าจะก่อเหตุดังกล่าวน่าจะเป็น นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือกอล์ฟ  อายุ 38 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในสิงห์บุรี จึงได้ดำเนินการพิสูจน์ทราบพร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐานโดยใช้เวลาสืบสวนประมาณ 7 วัน ก็พบว่ามีหลักฐานหลายอย่างโดยเฉพาะอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเกี่ยวพันกับ นายประสิทธิชัย พร้อมกับหลักฐานอื่นๆเชื่อมโยงว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว จึงได้ประสานให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับจากศาลอาญา กระทั่งศาลออกหมายจับให้เมื่อค่ำวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อทราบตัวผู้ก่อเหตุแน่ชัดประกอบกับศาลออกหมายจับแล้ว พล.ต.ต.จิรภพ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วิจักษ์ นำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.สนับสนุน บก.ป. หรือ ชุดปฏิบัติการพิเศษ “หนุมาน” กองปราบฯ ตามแกะรอยจนทราบที่กบดานของผู้ต้องหารายนี้จนทราบว่ามีบ้านพักอยู่ในพื้นที่ จ.ลพบุรี และจะมีการขับรถเดินทางไปทำการสอนหนังสือที่โรงเรียนโพธิ์ชัยสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี ในช่วงเช้าของวันนี้ (22 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.สนับสนุน บก.ป. จึงจัดกำลังพร้อมยุทโธปกรณ์ครบมือเฝ้าสังเกตการณ์

กระทั่งเห็นนายประสิทธิชัย กำลังขับรถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิ้ลยู รุ่นซีรีย์ 5 สีดำ หมายเลขทะเบียน 7กณ493 กทม. จึงได้ขับรถสะกดรอยติดตามนายประสิทธิชัย ไปจนถึงบริเวณทางหลวงสาย 311 ต.ท่าวุ้ง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี จึงแสดงตัวพร้อมอาวุธหนักครบมือบุกจู่โจมชาร์จจับกุม โดยระระหว่างที่เข้าจับกุมนั้นนายประสิทธิชัย ไม่มีท่าทีขัดขืนหรือต่อสู้เจ้าหน้าที่ เพราะตั้งตัวไม่ติด ทั้งนี้ จากการตรวจค้นภายในรถไม่พบอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ แต่พบกระสุนปืนขนาด 9 มม. ซึ่งเป็นขนาดเดียวกันกับที่ก่อเหตุ อยู่ภายในรถจำนวนหลายนัด จึงได้ทำการยึดไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจึงควบคุมตัวไปยังสถานีตำรวจท่องเที่ยวลพบุรี เพื่อทำการสอบสวน

มีรายงานด้วยว่า จากการสอบสวน นายประสิทธิชัย ให้การรับสารภาพ โดยรับว่าสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุนั้นเพราะตนเองรู้สึกเบื่อกับชีวิต ต้องการหาความท้าทาย ตื่นเต้น ชีวิตจะได้มีสีสัน  นอกจากนี้ ตนยังรู้ตัวดีว่าหลังก่อเหตุจะถูกตำรวจตามจับกุมตัวได้อยู่แล้ว

ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุนั้นเป็นปืนยี่ห้อ ซีแซต รุ่น เอสพี 01 ซึ่งเป็นปืนของพ่อที่เป็นอดีตตำรวจ หลังจากก่อเหตุเสร็จก็นำไปคืนพ่อเมื่อวันที่ 10 ม.ค. ส่วนรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฟีโน่ สีแดง รุ่นปี 2008 เป็นรถจักรยานยนต์ของพ่อตา ซึ่งตนเองก็ยืมมาเพื่อใช้ในการก่อเหตุด้วยเช่นกัน และขณะนี้รถคันดังกล่าวตนได้นำไปคืนให้กับพ่อตาแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้คำให้การของผู้ต้องหาจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีแต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อคำให้การในบางส่วน และจะทำการเค้นสอบอย่าละเอียดอีกครั้งเพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง ก่อนจะเตรียมนำตัวไปแถลงที่ สตช. ในวันพรุ่งนี้ต่อไป

โดย พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวว่า ส่วนหนึ่งของการแกะรอยหาเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้นั้น ทางเจ้าหน้าที่ต้องขอขอบคุณประชาชนชาวบ้านที่ให้ความร่วมมือช่วยแจ้งเบาะแสผู้ต้องสงสัยต่างๆ ซึ่งในส่วนนี้ทางกองปราบเองก็ได้เปิดกว้างและให้ความสำคัญอยู่แล้ว จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาทางกองปราบมีการเปิดช่องทางติดต่อกับประชาชนผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะคดีนี้เพียงเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงคดีอื่นๆอีกด้วย

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ