จับตาปรากฎการณ์ "ผึ้งแตกรัง" เพิ่มเสถียรภาพรัฐบาล หากยุบอนาคตใหม่
เมื่อวานนี้ 25 ม.ค.63 ที่เดอะลิงค์อโศก-มักกะสัน พรรคอนาคตใหม่ ได้จัดกิจกรรมงานเทศกาลดนตรี ศิลปะและวัฒนธรรม “futurefest 2020” ช่วง Leader Talk ในหัวข้อ “เปลี่ยนปัจจุบัน เปลี่ยนอนาคต” โดยมีแกนนำพรรคหลายคนเข้าร่วมกิจกรรม อย่าง นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคและนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.อนาคตใหม่ เข้าร่วมกิจกรรม
นายปิยบุตร กล่าวตอนหนึ่ง ว่า ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ ถูกร้องเรียนคดียุบพรรคที่ศาลรัฐธรรมนูญ ตนก็พยายามทำทุกวันให้เป็นวันสุดท้ายของช่วงชีวิต ทั้งนี้เราต้องต่อสู้ให้ได้ เพื่อไม่ให้ประเทศกลับไปสู่จุดเดิม ตั้งแต่เริ่มตั้งพรรคเราก็อยู่บนกระแสดูถูกดูแคลนว่าเป็นส.ส.จะทำงานได้ไหม
ซึ่งการที่เราชนะส.ส.เขตได้ เพราะมีความผสมผสานจากคนหลายรุ่น เราพยายามทำให้การเมืองไทยเป็นเรื่องสนุก ไม่ใช่พูดแล้วมีแต่การตีกัน ใช้ความรุนแรง ชิงไหวชิงพริบ หรือหักเหลี่ยมโหด
ถ้าปลายเดือนก.พ.ผมถูกตัดสิทธิ์ไม่ได้เป็นส.ส.แล้ว เขาอยากให้เราหยุดบทบาททางการเมือง ถ้าเราหยุดก็จะเป็นไปตามแผนเขา แต่เราจะไม่หยุดและเดินหน้าทำงานทางการเมืองต่อไป พร้อมลงพื้นที่ไปอภิปรายใกล้ชิดประชาชนมากขึ้น เราจะไปแบบพร้อมเพรียงกันด้วยอุดมการณ์ที่มองการเมืองระยะยาว ซึ่งจะทำให้การยุบพรรคกลายเป็นกระสุนด้านทันที และเราจะไปอยู่ที่ใหม่โดยพร้อมเพรียงกัน
นายปิยบุตร ยังกล่าวอีกว่า วันนี้ประเทศไทยเป็นสังคมอำนาจนิยม แต่อำนาจนิยมจะหมดไปได้ต้องเริ่มจากการไม่เชื่อฟังอำนาจ เราลองเริ่มต้นทดลองไม่เชื่อฟัง และท้าทายอำนาจ ออกแบบความคิดที่สร้างสรรค์กว่าที่เป็นอยู่
โดยเริ่มทดลองและตั้งคำถาม ก็จะเป็นเสรีภาพที่ไม่เชื่อฟังอำนาจ ถือเป็นเสรีภาพที่สมบูรณ์ที่สุด แม้ว่าอาจจะเดือดร้อน แต่การไม่เชื่อฟังเช่นนี้ จะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลง แม้เสี่ยงตาย แต่จะนำไปสู่การปลดปล่อย และเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น ขอให้ไปทดลองและทดสอบดู โดยเฉพาะการตั้งคำถามเกี่ยวกับการใช้อำนาจ และคิดท้าทายหาทางออกร่วมกัน เพื่อให้ประเทศไปสู่สังคมที่ดีกว่า