วันที่ 27 ม.ค.2563 นายแพทย์ชุติเดช ตาบ-องครักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา เปิดเผยว่า จากกระแสสังคมและสื่อโซชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ ที่ลงข่าวว่าโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมาได้รับผู้ป่วยลักษณะคล้ายติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ จากไวรัสโคโรนา เข้ารับการรักษานั้น ทางโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ขอชี้แจงว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง
โคราช พบผู้ป่วยคล้ายติดเชื้อไวรัสโคโรนา 1 ราย เพิ่งกลับจากอู่ฮั่น
ทั้งนี้ หากมีผู้ป่วยที่มีอาการ ไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล และเหนื่อยหอบ ร่วมกับมีประวัติเดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชน จีน ต้องสงสัยว่าป่วยจากไวรัสโคโรนา ให้นําผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลฯเพื่อคัดกรองและรักษาโดยเร่งด่วน
ด้าน นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา จากการตรวจสอบทราบว่า มีหญิงรายหนึ่ง อายุ 34 ปี เป็นชาว อ.เมืองนครราชสีมา ซึ่งเพิ่งกลับมาจากเมืองฉงฉิ่ง ประเทศจีน ไม่ใช่เมืองอู่ฮั่น โดยกลับมาบ้านที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ตั้งแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่ ต่อมาได้มีอาการเป็นไข้หวัด ซึ่งผู้ป่วยก็รู้สึกวิตกกังวลกลัวว่าจะติดเชื้อไวรัสโคโรนา หลังจากทราบข่าวการระบาดของไวรัสโคโรนา ในประเทศจีน จึงได้มาให้แพทย์ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ทำการรักษา
และตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2563 ที่ผ่านมา เพื่อความแน่ใจ กระทั่งวันนี้ตนเองได้สอบถามไปที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาแล้ว ก็ได้รับการยืนยันว่า หญิงรายนี้เป็นไข้หวัดธรรมดา ไม่ได้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาแต่อย่างใด โดยได้ทำการรักษาจนผู้ป่วยอาการดีขึ้นและได้อนุญาตให้กลับไปพักที่บ้านแล้ว
ส่วนอีกรายก็เป็นชาว อ.บ้านเหลื่อม ที่เพิ่งกลับมาจากประเทศจีน ป่วยเป็นไข้หวัดไปรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลบัวใหญ่ ซึ่งล่าสุดก็ได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นไข้หวัดธรรมดาเช่นกัน ดังนั้นขณะนี้ตนก็ขอยืนยันว่าในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ยังเป็นพื้นที่ปลอดภัยไร้ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 100% จึงขอให้ประชาชนสบายใจได้ ถึง
อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้มีข่าวลือในโลกโซเชียลไปต่างๆ นานา ว่าในพื้นที่ จ.นครราชสีมา พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาแล้วหลายราย และจังหวัดมีการปิดข่าวนั้น ตนขอยืนยันว่ากรณีเช่นนี้ทางจังหวัดจะไม่มีการปิดข่าวแน่นอน หากมีผู้ติดเชื้อก็จะแจ้งให้ประชาชนทราบตามความเป็นจริงทันที เพราะเป็นเรื่องระดับชาติ ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าได้ตื่นตูมเชื่อข่าวลือในโลกโซเชี่ยลมากนัก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความหวาดกลัว และส่งผลให้ประชาชนใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหวาดระแวงจนเกินไป
พร้อมกันนี้ก็ขอให้ประชาชนได้เฝ้าสังเกตอาการของตนเอง และคนใกล้เคียงด้วย หากพบว่ามีอาการเป็นไข้หวัด หรือมีอาการคล้ายติดเชื้อไวรัสอะไรบางอย่าง ก็ขอให้รีบนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที
นอกจากนี้หากไปในที่ชุมชนหนาแน่น ก็ขอให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันไว้ก่อน ซึ่งนอกจากจะป้องกันการติดเชื้อไวรัสต่างๆ ได้แล้ว ยังช่วยป้องกันฝุ่นละออง PM2.5 ได้อีกด้วย นายวิเชียรฯ กล่าว
“ศรีสะเกษ” พบผู้ต้องสงสัย อาจติดไวรัสโคโรนา 1 ราย ส่งตัวเข้ากักกัน
หมอเสียชีวิตรายแรกหลังติดเชื้อไวรัส "โคโรนา"
"อนุทิน" ไลฟ์สด! ไม่จำเป็นต้องปิดประเทศ เราคุมอยู่!
ผู้ค้นพบ “ไวรัสโคโรนา” ครั้งแรกในไทย เผยขั้นตอนตรวจเจอเชื้อสายพันธุ์ใหม่
