สธ.เฝ้าระวัง 2 แท็กซี่ ต้องสงสัยติดไวรัสโคโรนา


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หลายประเทศทั่วโลกเอาจริง ระดมกำลังตำรวจ จับผู้เผยแพร่ข่าวปลอม ไวรัสโคโรนา รวมทั้งประเทศไทย ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขของไทยวันนี้เผย ขณะนี้มีแท็กซี่ชาวไทยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2 คน ซึ่งขณะนี้ยังรอผลตรวจที่แน่ชัด

นายกฯ ป่วยนอนพักอยู่บ้าน งดภารกิจวันนี้

นายกฯแจงคนไทยในอู่ฮั่นมีความสุขดี รอจีนไฟเขียวรับ ปชช.กลับบ้าน

การแถลงข่าวสถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่กระทรวงสาธารณสุขวันนี้ (30 ม.ค.63) นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค ยอมรับว่า มีชาวไทยอาชีพขับรถแท็กซี่ 2 คน อยู่ในผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสะสมใน 202 คน จริง และคนขับรถแท็กซี่ 2 คนนี้ มีความกังวล เพราะว่าเขาได้รับผู้โดยสารมาจากประเทศจีน แต่ไม่รู้ว่ามาจากเมืองไหน ทางกระทรวงสาธารณสุข จึงนำไปตรวจสอบโรค ก็พบว่าอาการป่วยไม่ได้รุนแรง และยังไม่มีผลยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาหรือไม่

ส่วนแนวทางประสานช่วยเหลือนักศึกษาชาวไทยในประเทศจีน ที่ตกค้างอยู่ในเมืองอู่ฮั่น ประมาณ 60 คน นพ.โสภณ ระบุว่า ช่วงที่ไวรัสโคโรนาระบาดเป็นช่วงปิดเทอม ทำให้ส่วนมากจะกลับไปอยู่ที่บ้านพัก หรือหอพักที่ค่อนข้างปลอดภัย ประกอบกับอายุนักศึกษาอยู่ที่ประมาณ 20 ปี จึงมีร่างกายแข็งแรง โดยเบื้องต้นทางกระทรวงสาธารณสุขได้เข้าไปอยู่ในกรุ๊ป วีแชท พูดคุยกับนักศึกษาตลอดพบว่า อาการยังอยู่ในเกณฑ์ดีทุกคน แต่หากทางการจีนไฟเขียวให้เข้าไปรับนักศึกษาได้ก็จะดำเนินการตรวจดูอาการต่างๆอย่างละเอียดอีกครั้งและนำตัวกลับมาจากเฝ้าดูอาการอีก 14 วัน

ขณะที่วันนี้มีนักเรียนและอาจารย์ชาวไทยเดินทางกลับมาจากประเทศจีน 28 คน ทาง นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยว่า ทั้งหมดจะเข้าขั้นตอนการคัดกรองผู้ติดเชื้อที่สนามบิน ซึ่งหากไม่พบความผิดปกติ ก็จะให้กลับบ้าน

ขณะที่สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาวันนี้ ยังมีตัวเลขผู้ป่วยอยู่ที่ 14 คน รักษาหายแล้วกลับบ้านได้เพิ่มอีก 1 คน รวมเป็น 6 คน ยังรักษาอาการอยู่ในโรงพยาบาล 8 คน ซึ่งผู้ป่วยทุกคนอยู่ในเกณฑ์ดี ส่วนผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสม 202 คนดังกล่าว มี 31 คน คัดกรองมาได้จากสนามบิน 171 คน เดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลเอง เบื้องต้นอนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 67 คน ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ และยังยืนยันว่าไม่มีการติดเชื้อในประเทศไทย

ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส วันนี้ (30 ม.ค.63) ก็มีแอคชั่นแรง คือได้เดินทางไปกับ ตำรวจ ปอท.หรือ ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่มีการนำหมายค้น 15 จุดเป้าหมายทั่วประเทศ แล้วก็ไปจับผู้เผยแพร่ข่าวปลอมไวรัสโคโรนาได้ 2 คน  คนหนึ่งเป็นผู้หญิง โพสต์ข้อความว่า “พัทยามีคนป่วยโคโรนา ตาย 1 คน ทำไมต้องปิดข่าวหรอ” อีกคนเป็นผู้ชาย จับได้ที่ย่านทวีวัฒนา เป็น ผู้เผยแพร่คลิปวิดีโอต่างประเทศที่มีคนล้มลง ซึ่งทั้ง 2 เป็นข่าวปลอม หรือ เฟคนิวส์

2 คนนี้ ตำรวจ ปอท.นำตัวไปดำเนินคดี ตามความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์  ส่วนอีก 4 คน ที่พบการส่งต่อข่าวปลอม เช่น ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และภูเก็ต ตำรวจยังอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลและรวบรวมพยานหลักฐาน

ไปดูสถานการณ์ที่ต่างประเทศ ก็พบว่า มีการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ หลายประเทศ

เริ่มต้นที่ ตำรวจเกาหลีใต้ ตอนนี้ก็กำลังปราบปรามการเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา เช่น ข่าวลือที่ว่าพบผู้ติดเชื้อในโรงเรียนบางแห่ง รวมถึงพฤติกรรมของมิจฉาชีพที่ส่งข้อความผ่านโซเชียลมีเดียขอให้ผู้ใช้แจ้งข้อมูลส่วนตัว เพื่อแลกกับสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลการระบาดของไวรัสดังกล่าว เช่น จำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันและผู้ที่เข้าข่ายต้องสงสัย

ขณะที่ประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ของเกาหลีใต้ กล่าววันนี้ว่า ผู้ที่เผยแพร่ข่าวเท็จเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนาจะถูกดำเนินคดีและได้รับโทษอย่างรุนแรง

ส่วนที่มาเลเซีย คณะกรรมการการสื่อสารและสารสนเทศแถลงว่า ตำรวจมาเลเซียได้จับกุมชาย 4 คน อายุระหว่าง 24 ถึง 49 ปี ในรัฐมะละกา รัฐเกดะห์ และรัฐปะหัง ซึ่งต้องสงสัยว่าเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาบนสังคมออนไลน์ โดยหากพบว่ามีความผิดจริง ผู้กระทำผิดอาจถูกปรับสูงสุด 5 หมื่นริงกิต หรือประมาณ 3 แสน 8 หมื่นบาท หรือถูกจำคุกสูงสุด 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

ด้านนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชา ออกมาเรียกร้องวันนี้ (30 ม.ค.) ให้ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์และนักข่าวใช้ความระมัดระวังในการรายงานสถานการณ์ของไวรัสโคโรนาในประเทศ โดยระบุว่า “ข่าวเท็จทำให้เกิดความหวาดกลัวและตื่นตระหนกโดยไม่จำเป็น และอันตรายยิ่งกว่าตัวไวรัสเสียอีก”

ฮุน เซน ยังตำหนิผู้ใช้เฟซบุ๊กและนักข่าวที่ไร้จรรยาบรรณที่เผยแพร่ข่าวเท็จบนสื่อสังคมออนไลน์ พร้อมกับสั่งให้กระทรวงข้อมูลข่าวสารดดำเนินมาตรการสกัดการแพร่กระจายของข่าวเท็จ โดยยกตัวอย่างกรณีล่าสุดในมาเลเซียที่เพิ่งมีการจับกุมผู้กระทำผิดไป

“อนุทิน” เผย นายกฯป่วยเหตุโหมงานหนักตั้งแต่ปีใหม่

 

 

 

 

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ