สธ. จับตา “ไข้ลาสซา” ระบาดอีกครั้ง
“ไข้ลาสซา” ระบาดใน “ไนจีเรีย” ตาย 29 ราย
ศูนย์ควบคุมโรคไนจีเรีย (NCDC)แถลงการณ์แก่สํานักข่าวซินหัวว่า มีผู้เสียชีวิต 41 รายจากการระบาดของโรคลาสซา (Lassa) ซึ่งยังระบาดอย่างต่อเนื่องในไนจีเรีย ศูนย์ควบคุมโรคระบุว่า ตั้งแต่ต้นปีมีผู้ป่วยที่ยืนยันผลแล้ว 258 ราย ซึ่งอยู่ในรัฐ 19 แห่งจากทั้งหมดของประเทศ ผู้ป่วยต้องสงสัยอยู่ที่ส่วนใหญ่อยู่ในรัฐทางใต้ของประเทศ เช่น เอโบนย์ (Ebonyi), เอโด (Edo) และ ออนโด (Ondo)
รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขแถลงการณ์ว่า ไนจีเรียมีสภาพภูมิอากาศแบบเขตร้อน ประชาชนจึงมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อไข้ลาสซา เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ในแอฟริกาตะวันตก “แม้ว่าจํานวนผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้น แต่อัตราการติดโรคของประชากรในปี2020อยู่ที่ร้อยละ 15 ซึ่งถือว่าดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี ปีที่แล้ว (2019)”
รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขยังให้ข้อมูลอีกว่า “มีเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพในไนจีเรียกำลังทำงานอย่างแข็งขันเพื่อลดการติดโรคให้เหลือเพียงหลักเดียวโดยเชื่อว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้ และในจีเรียยังทุ่มเทให้กับการวิจัย เพื่อพัฒนาวัคซีนรักษาไข้ลาสซา ที่เป็นทางออกที่ดีที่สุดสําหรับโรคนี้”
คณะผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ค่าใช้จ่ายในการรักษาไข้ลาสซาสูงมาก และมียาต้านไวรัสที่มี ศักยภาพต่อการบรรเทาโรคนี้เพียงตัวเดียวคือ "ไรบาวิริน" (Ribavirin) ซึ่งมีราคาสูงมากในไนจีเรีย
ข้อมูลข่าวสารทางระบาดวิทยาล่าสุดชี้ว่าไข้ลาสซามักจะเกิดขึ้นช่วงฤดูแล้งคือระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน และไวรัสลาสซาเกิดจากการสัมผัสกับปัสสาวะหรืออุจจาระของหนูป่า (mastomy) นอกจากการออกมาตรการป้องกันทั่วไป เช่น การล้างมือ เป็นประจํา องค์การอนามัยโลกยังแนะนำให้เลี้ยงแมวด้วย