วันที่ 13 ก.พ.2563 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ รพ.จุฬาฯ สภากาชาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์โรคระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งองค์การอนามัยโลกเปลี่ยนชื่อใหม่แล้วว่า โควิด-19 หรือ Covid 2019 ว่า เมื่อได้อ่านวารสารรายงานจากประเทศจีนถึงไวรัสCovid 2019 ตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค. 2563 ทุกคนแปลกใจว่าผู้ป่วยทุกรายนั้นได้รับการตรวจปอดด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการตรวจด้วยเอ็กซเรย์ธรรมดา แต่จากรายงานต่อจากนั้นทำให้เราทราบว่าคณะแพทย์ของประเทศจีนควรจะได้รับทราบข้อจำกัดและประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นของการใช้คอมพิวเตอร์โดยการตรวจด้วยคอมพิวเตอร์นั้นมีศักยภาพอย่างไรบ้าง ประกอบด้วย
สธ.แจงล่าสุดเรือท่องเที่ยวยังไม่เทียบท่า แค่แวะพักภูเก็ต
1.ระบุได้แม่นยำและใช้เวลารวดเร็วกว่าการตรวจหาสารพันธุกรรมจากน้ำในช่องโพรงจมูกด้านหลังและจากลำคอและจากเสมหะว่ามีการติดเชื้อไวรัสตัวนี้จริง
2.ทำให้สามารถบอกลักษณะเฉพาะตัวของผู้ติดเชื้อโรคนี้ได้ว่าแม้แทบไม่มีอาการเลยแต่ก็มีปอดอักเสบได้ชัดเจนจากการตรวจด้วยคอมพิวเตอร์ และสามารถเป็นผู้แพร่เชื้อต่อไปอีกได้
3.ทำให้ทราบว่าปอดอักเสบหรือปอดบวมจากไวรัสตัวนี้มีลักษณะเฉพาะตัว ไม่เหมือนกับที่เกิดจากไวรัสตัวอื่นหรือแบคทีเรียตัวอื่น และเกิดจากภาวะอื่นที่พ่วงมาเช่นจากการที่หัวใจวาย
4.นอกจากนั้นทำให้นำมาถึงการตั้งคำถามว่ากลไกของปอดอักเสบดังกล่าวเกิดขึ้นจากตัวไวรัสอย่างเดียวหรือเกิดขึ้นจากการอักเสบที่มาจากการที่ร่างกายพยายามต่อสู้กับไวรัสมากเกินไป ทั้งนี้การพิเคราะห์ผู้ป่วย 1,099 รายพบว่าผู้ป่วยที่มีอาการหนักนั้นมีถึง 25% ที่ไม่มีปอดอักเสบในขณะที่ผู้ป่วยที่มีอาการเบานั้นมีเพียง 5% ที่มีปอดอักเสบ
5.และในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ทางประเทศจีนได้ประกาศตัวเลขใหม่ของผู้ติดเชื้อโดยใช้ผลของการตรวจด้วยคอมพิวเตอร์ทางปอด ในการระบุผู้ที่ติดเชื้อไวรัสนี้ทำให้จำนวนผู้ที่ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมากมายแต่อาจเป็นไปได้ว่าถึงเวลาแล้วที่ทางประเทศจีนจะทำการกวาดล้างไวรัสตัวนี้ด้วยการระบุผู้ที่ติดเชื้อให้ได้ทุกคนและป้องกันการแพร่โรคนี้ไปสู่คนอื่นที่อยู่ใกล้เคียง
“ใครจะว่าประเทศจีนไม่เก่ง สู้ฝรั่งไม่ได้ จากข้อมูลต่างๆเหล่านี้โดยที่องค์การอนามัยโลกประกาศกำหนดต่างๆ ประเทศไทยน่าจะเรียนรู้จากประเทศจีนมากกว่า” ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าว