สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผย "แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2563 คาดว่า จะขยายตัวร้อยละ 1.5 – 2.5 ชะลอตัวลงจากปี 2562"
กนง.ลดดอกเบี้ยเหลือ 1% หลังประเมินเศรษฐกิจแย่กว่าที่คาด
ไวรัส-แล้ง-งบฯล่าช้า ปัจจัยฉุด
การคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจไทยปีนี้ นับว่าลดลงจากเดิมที่ตาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.7-3.7% โดยเป็นผลมาจากปัจจัยเสี่ยงทั้งไวรัสโควิด-19 ปัญหาภัยแล้ง และความล่าช้าของงบประมาณ
รัฐบาล เชื่อ ศก.ไทยฟื้นหลังงบปี 63 ประกาศใช้ จ่อฟรีวีซ่า “จีน-อินเดีย” หลังโคโรนาคลี่คลาย
ทางสภาพัฒน์จึงมองว่าประเด็นในการบริหารนโยบายเศรษฐกิจในช่วงปี 2563 ควรให้ความสำคัญ เช่น นโยบายการเงินการคลัง เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจในครึ่งปีแรก และสนับสนุนการฟื้นตัว และการขยายตัวในครึ่งปีหลัง การฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยว ให้สามารถกลับมาขยายตัว ในครึ่งปีหลัง โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปีไม่ต่ำกว่า 37 ล้านคน ส่วนรายได้อยู่ที่ 1.73 ล้านล้านบาท โดยให้ความสำคัญกับ การยกเว้นค่าธรรมเนียมและค่าปรับให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัส ตลอดจนการรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวไทยหันมาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น หรือ การเพิ่มวันหยุด ในส่วนของ การส่งออก ให้สามารถกลับมาขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 2 และ การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ โดยการเร่งรัดการเบิกจ่ายเพื่อให้สามารถเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ 2563 ขณะเดียวกัน การดูแลผู้มีรายได้น้อย ผู้ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งก็ยังเป็นเรื่องจำเป็น
ส่วน "ปัจจัยสนับสนุน" ที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ตามเป้าหมาย เช่น การปรับตัวดีขึ้นอย่างช้าๆ ของเศรษฐกิจและ การค้าโลกตามการลดลงของแรงกดดันจากมาตรการกีดกันการค้าและความเสี่ยงจาก การแยกตัวของสหราชอาณาจักรแบบไร้ข้อตกลง การใช้จ่ายภาคครัวเรือน และการลงทุนภาคเอกชนและภาครัฐขยายตัวในเกณฑ์ที่น่าพอใจ
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4/2562 ขยายตัว 1.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้เศรษฐกิจปี 2562 ทั้งปีขยายตัว 2.4% ต่ำกว่าที่คาดไว้ว่าจะขยายตัว 2.6%