เจ้าหน้าที่ช่วยกันทำแนวกันไฟ เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟป่าลุกลามเข้าไปในพื้นที่รอบศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง ภายในอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย ซึ่งเป็นจุดพักแรม ร้านอาหาร และบ้านพักของเจ้าหน้าที่ หลังสามารถควบคุมไฟป่าที่ลุกไหม้ไว้ได้ทั้งหมดแล้ว
ไฟไหม้ภูกระดึง ตั้งข้อสงสัย 2 สาเหตุ “ก้นบุหรี่ –ไฟป่าธรรมชาติ” !!
ระหว่างดับไฟ เจ้าหน้าที่เผยแพร่คลิปภาพน่าสลดใจ เป็นภาพกวางป่ากำลังหนีตาย ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามเข้าช่วยเหลือ แต่ไม่สำเร็จ เพราะกวางตกใจวิ่งหนีเตลิดไร้ทิศทาง ซึ่งจนถึงขณะนี้ ยังไม่ทราบจำนวนของสัตว์ป่าที่ตายจากไฟป่าครั้งนี้
จากแผนที่จะเห็นว่า เมื่อเดินทางไปท่องเที่ยวภูกระดึง จะต้องเดินเท้าจากจุดบริการนักท่องเที่ยวที่อยู่ด้านล่าง ผ่านซำแฮก ขึ้นไปยังหลังแป ระยะทางประมาณ 5.5 กิโลเมตร ซึ่งบริเวณหลังแปจะมีลักษณะเป็นหน้าผา สองข้างทางเป็นป่า จากหน้าผาเข้าไปจุดบริการนักท่องเที่ยววังกวาง หรือจุดกางเต็นท์ ประมาณ 3.5 กิโลเมตร รวมระยะทางที่นักท่องเที่ยวเดินคือ 9 กิโลเมตร
โดยจุดไฟป่าเกิดขึ้นบริเวณซำขอนแดง ห่างจากขอบหน้าผาประมาณ 2 กิโลเมตร แต่กระแสลมจะพัดลูกไฟข้าม ไปติดป่าสนที่อยู่บนหลังแป ประกอบกับบริเวณดังกล่าวมีใบสนทับถมกันมานาน ทำให้ไฟไหม้ลุกลามไปจนถึงผาหมากดูก แล้วไฟลุกลามเป็นวงกว้าง
เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมด้วยการทำแนวกันไฟและชิงเผากลับตามเส้นทางหลังแป - วังกวาง และเส้นทางหลังแป - หมากดูก – สระใหญ่ เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟมาถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง ซึ่งเป็นจุดกางเต็นท์ของนักท่องเที่ยว โดยไฟป่าที่เกิดขึ้นนับว่าอยู่ห่างจากจุดกางเต็นท์เป็นกิโลเมตร ทำให้วันนี้ก็ยังมีนักท่องเที่ยวขึ้นลงตามปกติ
การสำรวจพบพื้นที่ความเสียหายประมาณ 3,400 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ป่าสน เสน่ห์ของภูกระดึง ส่วนเหตุไฟไหม้นี้ เป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 8 ปี และหนักสุดในรอบ 17 ปี
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ ยังคงเฝ้าระหว่างตามจุดต่างๆ และนำน้ำไปดับท่อนไม้ที่ยังคงติดไฟ รวมทั้งทำแนวกันไฟเพิ่มเติม และเข้าค้นหาเพื่อช่วยชีวิตสัตว์ที่ติดอยู่ในป่าด้วย
ส่วนสาเหตุของไฟป่าที่เป็นประเด็นถกเถียงในโลกออนไลน์ ที่บางส่วนระบุว่าเข้าใจว่าสาเหตุมาจากก้นบุหรี่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นำฟป่าตามธรรมชาติ เนื่องจากสภาพป่ามีใบไม้และหญ้าแห้ง ประกอบกับกระแสลมพัดรุนแรง ทำให้ไฟลุกเป็นพื้นที่กว้าง
ขณะที่ ภาพถ่ายดาวเทียมที่สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ จิสด้า ใช้ดาวเทียม LANDSAT-8 และ Sentinal-2B ติดตามสถานการณ์ไฟไหม้ป่าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง
โดยเปรียบเทียบภาพถ่ายดาวเทียม Landsat-8 วันที่ 18 ม.ค. ก่อนจะเกิดไฟป่า กับภาพถ่ายดาวเทียม Sentinel-2 วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ระหว่างเกิดไฟป่า พบจุดความร้อน หรือ HOT SPOT พื้นที่ที่ถูกเผาไหม้ (ในกรอบเส้นสีเหลือง) ประมาณ 3,700 ไร่ ในป่าสนเขา กระจายทั้งทางด้านทิศตะวันตก ทิศเหนือ และ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอุทยานฯ ซึ่งเป็นรอยต่อกับพื้นที่การเกษตร
ข้อมูลนี้จะใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเข้าตรวจสอบในพื้นที่จริงร่วมกับจังหวัด เพื่อนำไปสู่การวางแผนฟื้นฟู ป้องกัน และสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในพื้นที่เพื่อสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน
อุทยานแห่งชาติ “ภูกระดึง” ป่าอุดมสมบูรณ์ของไทย
ไฟป่าภูกระดึง โหมหนัก เสียหายหนักกว่า 2 พันไร่
