ผู้ว่าฯเลย ขอกองทัพทำแนวกันไฟ ป้องกันเหตุซ้ำ “ไฟป่าภูกระดึง”

แม้เจ้าหน้าที่จะควบคุมไฟป่าบนภูกระดึงได้แล้ว แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังแนวไฟไม้ไม่ให้กลับมาปะทุขึ้นอีก ส่วนทางด้านผู้ว่าราชการจังหวัดเลยถอดบทเรียนรับมือไฟป่าภูกระดูก เร่งประสานกองทัพช่วยขนเครื่องจักรขึ้นไปบนภูเตรียมพร้อมรับมือหากเกิดไฟป่าขึ้นอีก

ไฟป่าภูกระดึง โหมหนัก เสียหายหนักกว่า 2 พันไร่

ไฟไหม้ภูกระดึง ตั้งข้อสงสัย 2 สาเหตุ “ก้นบุหรี่ –ไฟป่าธรรมชาติ” !!

ภาพมุมสูงบริเวณทุ่งหญ้าบนภูกระดึงเผยให้เห็นแนวดำ หรือแนวที่ถูกไฟไหม้เสียหายลุกลามไปไหม้ต้นสน ซึ่งต้นสนมีน้ำมัน ติดไฟง่าย ขณะที่บางจุดยังมีกลุ่มควันไฟตามท่อนไม้ใหญ่ ซึ่งยังดับไม่สนิท นี่เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่กว่า 3,700 ไร่ในป่าสนเขาของภูกระดึงที่ถูกไฟป่าเผาไหม้เสียหาย

ขณะที่เพจเฟซบุ๊กส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เผยภาพเจ้าหน้าที่ร่วมกันเก็บแนวดำในพื้นที่​ อย่างต่อเนื่องโดยการใช้น้ำฉีดขอนและตอที่ติดไฟอยู่ให้ดับสนิท ซึ่งล่าสุดเช้าวันนี้ สถานการณ์บนหลังแปเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง​

 

นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า  หลังจากร่วมกันประชุมได้มีข้อตกในเรื่องการป้องกันไฟป่าและแนวการการฟื้นฟูป่าบนอุทยานภูกระดึง โดยได้ทำหนังสือถึงกองทัพบกของความอนุเคราะห์นำเครื่องบินขนรถแทรกเตอร์จำนวน 2 คันขึ้นภูกระดึงเพื่อนำไปทำแนวกันไฟ เพราะมีบทเรียนแล้วว่า 24 ชั่วโมงที่ใช้แรงงานคนช่วยกันดับไฟป่าจนไม่ได้นอนกัน จึงคิดการมีเครื่องจักรมาช่วย ซึ่งจะช่วยเจ้าหน้าที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ด้านนายสมบัติ พิมพ์ประสิทธิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง กล่าวถึงการฟื้นฟูสภาพพื้นที่ ว่า คงปล่อยให้ธรรมชาติดูแลตัวเอง ซึ่งในพื้นที่จะเกิดเป็นทุ่งหญ้า ส่วนสัตว์ป่าในพื้นที่จะได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหนนั้นยังไม่ได้เข้าไปสำรวจแต่ที่ดูจากรอบนอกยังไม่พบซากสัตว์ป่าแต่อย่างใด ส่วนนักท่องเที่ยวยังคงเข้ามาท่องเที่ยวได้ตามปกติ ซึ่งขณะนี้มีนักท่องเที่ยวอยู่บนภูประมาณ 80 คน แต่ปัญหาขณะนี้คือเรื่องภัยแล้งทำให้น้ำดื่มน้ำใช้น้อยลงสแต่ก็คิดว่าน่าจะผ่านช่วงท่องเที่ยวปีนี้ไปได้