คนไทยแห่ทิ้งตั๋วญี่ปุ่น หลัง สธ.เตือน “โควิด-19” คาดเสียหาย 1,000 ล้าน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ภายหลังกระทรวงสาธารณสุข ประกาศเตือนคนไทย หลีกเลี่ยงการเดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะญี่ปุ่น กับสิงคโปร์ ล่าสุด สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว แนะรัฐบาลให้ข้อมูลที่ละเอียดต่อประชาชน เพื่อไม่ให้เกิดการตื่นกลัว เพราะล่าสุดลูกค้าเริ่มทิ้งตั๋วท่องเที่ยวญี่ปุ่น และขอเงินคืนแล้ว คาดกระทบธุรกิจไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

ไม่จริง! หลังโซเชียลฯแชร์ สสจ.สั่งห้ามตรวจเชื้อโควิด-19 หวั่นตัวเลขเพิ่ม

อย่าเชื่อ! ดื่มน้ำอุ่น กินกระเทียม ป้องกันโรคโควิด-19 

เมื่อวันที่ 18 ก.พ.2563 นายเจริญ วังอนานนท์ อุปนายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว หรือ ทีทีเอเอ เปิดเผยว่า หลังทางการของญี่ปุ่น ประกาศการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่าอยู่ในระดับการแพร่ระบาดระยะที่ 3 ที่เกิดการระบาดในประเทศ จนทำให้กระทรวงสาธารณสุข ประกาศเตือนคนไทยเลี่ยงการเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น บวกกับการนำเสนอของสื่อมวลชนบางสำนัก ที่พาดหัวข่าวจนทำให้นักท่องเที่ยวไทย เกิดความกลัว โทรศัพท์เข้ามาที่บริษัททัวร์นับ 100 แห่ง ในวันนี้ เพื่อขอทราบเงื่อนไขในการขอเงินคืน กรณีต้องการยกเลิกการเดินทาง หรือ เลื่อนการเดินทาง จนขณะนี้ สมาคมฯ เกิดความกังวลว่า ในช่วงไฮซีซั่นการท่องเที่ยวญี่ปุ่นช่วงนี้ แค่เฉพาะครึ่งเดือนที่เหลือในเดือนกุมภาพันธ์ มีลูกค้าประมาณ 30,000 ราย ที่กำลังลังเลการเดินทางไปญี่ปุ่น คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท เพราะยังไม่นับรวมลผลกระทบอาจจะยื้ดเยื้อ

โดยจึงขอให้ รัฐบาล ทำความเข้าใจกับประชาชนให้ละเอียด เรื่องสถานการณ์การติดเชื้อว่ามีความรุนแรงในพื้นที่เสี่ยงในบ้างของญี่ปุ่น เนื่องจากการติดเชื้อที่สูงในญี่ปุ่น ส่วนใหญ่300 กว่ารายที่ป่วย เป็นคนที่อยู่ในเรือสำราญ ไดมอนด์ พรินเซสส์ เพราะขณะนี้ข้อมูลที่ออกมากำลังส่งผลกระทบกับ ธุรกิจทัวร์นอกประเทศของไทย

อุปนายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว กล่าวต่อว่า ถึงแม้ลูกค้าจะยกเลิกการเดินทาง แต่ต้องยอมรับว่า หากสายการบินยังไม่หยุดบิน บริษัททัวร์ ก็ไม่มีค่าใช้จ่ายจะไปคืนเงินลูกค้า รวมถึงการยกเลิกเดินทางในระยะยาว จะส่งผลกระทบให้ธุรกิจเอสเอ็มอีที่ทำทัวร์ต่างประเทศจำนวนหนึ่งได้รับผลกระทบจนปิดกิจการด้วย

ขณะที่ สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง ได้ยกระดับคัดกรองผู้โดยสารป้องกันไวรัสโควิด-19 จากประเทศญี่ปุ่นและสิงคโปร์เทียบเท่าจีน โดยมีการแยก Gate อาคารเทียบเครื่องบินและมีจุดคัดกรองอย่างเข้มข้น

ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า การเดินทางไปประเทศที่เสี่ยง รวมถึงประเทศญี่ปุ่น และสิงคโปร์ คนไทยยังสามารถไปได้ ถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องเดินทาง ก็ขอให้ปฎิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนแออัด สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ และเมื่อเดินทางกลับมาแล้ว หากมีอาการป่วยให้รีบไปพบแพทย์ทันที แต่เนื่องจาก ประเทศญี่ปุ่น และประเทศสิงคโปร์ มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ทางกระทรวงสาธารณสุขจึงขอให้คนไทยที่ประสงค์เดินทางไปยังประเทศดังกล่าว เลื่อนการเดินทางออกไปก่อน

นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า นอกจากจะไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารจากเรือสำราญเวสเตอร์ดัม เข้าประเทศไทยจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์แล้ว ต่อไป หากพบเรือสำราญลำใดที่ต้องการมาเทียบท่า แต่ได้ผ่านประเทศที่มีความเสี่ยงมา ก็จะไม่อนุญาตให้เข้ามาเทียบท่า ส่วนผู้โดยสารจากเรือสำราญเวสเตอร์ดัมก่อนหน้านี้มาไทย 95 คน ส่วนใหญ่ต่อเครื่องไปต่างประเทศหมดแล้ว เหลือในเมืองไทย 4 คน เป็นคนไทย 2 คน ต่างชาติ 2 คน ซึ่งผ่านระบบคัดกรองและตรวจเชื้อทางห้องปฏิบัติการแล้ว

สำหรับข้อมูลล่าสุด ไทยพบผู้เป็นโรคโควิด-19 แล้ว 35 คน กลับบ้านได้เพิ่ม 2 คน เป็น 17 คน รักษาอาการในโรงพยาบาลอยู่ 18 คน

หมอหญิงจีนป่วยโควิด-19 รักษา รพ.ราชวิถี หายแล้ว

 ขณะที่้ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เข้าตรวจเยี่ยมผู้ป่วยติดโรคโควิด-19  ภายในห้องแยกโรคโรงพยาบาลราชวิถี  โดยผู้ป่วยคนนี้เป็นหญิงชาวจีน อายุ 74 ปี อาชีพเป็นหมอรักษาผู้ป่วยในเมืองอู่ฮั่น แต่มาเที่ยวประเทศไทยและพบว่ามีการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้ จึงส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี ซึ่งทีมแพทย์ได้ตัดสินใจใช้ยา ต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Oseltamivir) และต้านไวรัส HIV ( Lopinavir / ritonavir) พบว่าอาการดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง เมื่อรักษาอาการและตรวจเป็นระยะพบว่าผลติดเชื้อเป็นลบ แพทย์จึงอนุญาตให้กลับบ้านและให้กลับมาตรวจซ้ำภายในสองอาทิตย์ ซึ่งตัวผู้ป่วยเองจะยังคงพักผ่อนอยู่ในประเทศไทยอีก 2 เดือน

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ