ตามข้อกำหนดของพรรค ผู้สมัครที่ขึ้นเวทีประชันวิสัยทัศน์ที่รัฐเนวาดาได้ จะต้องมีคะแนนความนิยมทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 10% จากผลการสำรวจระดับชาติอย่างน้อย 4 สำนัก ซึ่งผลสำรวจล่าสุดที่เปิดเผยเมื่อวานนี้ นายบลูมเบิร์ก อดีตนายกเทศมนตรีนิวยอร์กวัย 78 ปี ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนถึง 19% แซงหน้าตัวเต็งอย่างอดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ได้เสียงสนับสนุนไป 15% โดยตามหลังแค่วุฒิสมาชิกเบอร์นีย์ แซนเดอร์ส ที่ได้รับคะแนนสนับสนุนไปถึง 31%
มหาเศรษฐี “บลูมเบิร์ก” ประกาศลงชิงปธน.สหรัฐฯ
ทั้งนี้ นายบลูมเบิร์ก ตัดสินใจไม่เข้าร่วมชิงชัยในการเลือกตั้งขั้นต้น 4 ครั้งก่อนหน้านี้ แต่จะลงชิงชัยในศึกเลือกตั้งขั้นต้นที่เรียกว่า "ซูเปอร์ ทิวส์เดย์" วันที่ 3 มี.ค.นี้ ซึ่งจะมี 14 รัฐ ร่วมลงคะแนนเลือกตัวแทนพรรค ที่จะเข้าไปสู้ศึกเลือกตั้งกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จากฝั่งรีพับลิกัน
ส่วนผลการเลือกตั้งขั้นต้น 4 ครั้ง ที่ผ่านมา จะเห็นว่า วุฒิสมาชิก เบอร์นี แซนเดอร์ส ทำคะแนนขึ้นมาเป็นตัวเต็งสำคัญ ส่วนผู้สมัครที่กระแสแรงสุดๆ อย่างอดีตรองประธานาธิบดี โจ ไบเดน กลับทำผลงานได้ไม่ดีนัก
ทีมหาเสียง“ทรัมป์”เล็งไม่ออกบัตรสื่อให้นักข่าวบลูมเบิร์ก