รายการ เป็นเรื่องเป็นข่าว วันนี้ (20 ก.พ.) เกาะติดก่อนวันที่ 21 ก.พ. ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการวินิจฉัยยุบ หรือไม่ ยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยรอบนี้เป็นคดีการกู้เงิน ที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคให้พรรคกู้เงิน กับในตอน พิพากษา! อนาคตใหม่
ปิยบุตร ชี้ศาลรธน.ไม่มีอำนาจยุบพรรค-ตัดสิทธิ์ทางการเมือง
"ปิยบุตร"เชื่อ อนาคตใหม่ ไม่ถูกยุบ ปมกู้เงิน"ธนาธร"
คุณศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระ ประเมินเรื่องนี้ว่า พูดยากเรื่องนี้ มีคนถามเยอะมาก ซึ่งตามหลักกฎหมาย เรื่องนี้ไม่ควรเป็นคดี โดยจากการฟังความคิดเห็นนักวิชาการที่มีจรรยาบรรณอย่างเคร่งครัด โดยเสียงไปในทางเดียวกัน เหตุผล คือ ต้นทางของการเป็นคดีเป็นเรื่องเงินกู้ เงินบริจาค ไม่สามารถลากไปสู่การยุบพรรคได้ โดยการยุบพรรคเป็นเรื่องการใช้เงิน แต่ไม่มีการไปยื่นคำร้อง โดยการยุบพรรคจากการใช้เงิน จะมีข้อกำกับคือ เรื่องเงินบริจาค และเงินบริจาคต้องผิดกฎหมาย ดังนั้น หากจะยุบพรรคตามข้อคิดเห็นนักวิชาการ ซึ่งนักวิชาการมีหลายประเภท แต่ดูๆแล้วก็ประมาณคุณจะไปยุบได้อย่างไร
รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ มองเรื่องนี้ ว่า ม.72 นั้นต้องเป็นเงินสีเทาๆ ถึงจะผิดเต็มๆ แต่จะบอกว่าเป็นนิติกรรมอำพราง เพราะนายธนาธร ในฐานะหัวหน้าพรรคนั้น กลายเป็นนิติกรรมซ่อนเงื่อน อย่างการกู้เงิน คือ การให้ ถ้าไปดึงออกมา ก็คือ การบริจาค แต่หากกฎหมายไม่ให้ ก็จะไปเข้ากฎหมายกู้เงิน จริงๆทางที่เต็มที่สุดคือ ม.72 จะทำอะไรก็แล้วแต่หากขัดกฎหมาย ก็ถือว่าเป็นการกระทำมิชอบ แต่หากไล่เรียงตามบัญญัติไว้ เช่น ม.62 เรื่องเงินกู้มีไม่ได้ เพราะเข้าข่ายเป็นรายได้อื่นใด ซึ่งก็มีความผิด แต่เป็นไปตามม.62 ก็ไม่ถึงยุบพรรคอยู่ดี
“หากบอกว่า เป็นเงินมิชอบทางกฎหมาย เพราะไปขยายกฎหมาย ก็ไม่น่าจะไปถึง หรือกฎหมายที่มีกำหนดโทษแล้ว ก็ไม่ควรเอากฎหมายอื่นมากำหนดโทษอีกไม่ได้ เพราะจะเป็นการเอาผิดซ้ำสอง ผมยังมองว่าไม่น่าจะถูกยุบ แต่กรรมการบริหารพรรคอาจโดนได้ โดยเฉพาะการรับเงินบริจาคที่ไม่สามารถทำได้ อาจถูกตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี มาสมัครไม่ได้อีก” รศ.ดร.เจษฎ์ กล่าว
คุณศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ กล่าวถึงกรณีพรรครอด แต่กรรมการบริหารไม่รอด ว่า ประเด็นสำคัญคือ หากอนาคตใหม่ผิดก็ต้องถูกลงโทษ หากไม่ผิดก็ไม่ต้องถูกลงโทษ สาระสำคัญคือ เราจะมองพรรคการเมืองเป็นองค์กรเอกชน เพราะอะไรก็ตามที่กฎหมายไม่ได้ห้าม ถือว่าผิดหรือไม่ผิดกันแน่ หรือพรรคการเมืองเป็นองค์กรของรัฐ ต้องทำอะไรต้องให้รัฐอนุญาตหรือไม่ ดังนั้น อย่าไปมองว่าเป็นพรรคอนาคตใหม่ แต่ต้องมองว่า พรรคการเมืองเป็นองค์กรของรัฐใช่หรือไม่ จะทำอะไรต้องทำตามกรอบของรัฐ หรือเป็นการรวมตัวของประชาชน
รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก กล่าวว่า พรรคการเมือง เป็นนิติบุคคล องค์กรมหาชน แต่ไม่ใช่องค์กรของรัฐ อย่างไรก็ตาม หากกรณีนิติบุคคล คือ ประชาชนกับประชาชนดำเนินการกัน ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับอำนาจรัฐ ไม่สามารถดำเนินการใดๆทางปกครอง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือตัดสินใจที่ผูกพันรัฐ แต่พรรคการเมือง แม้ไม่ได้ทำโดยตรง แต่เป็นต้นทาง อย่างนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ส.ส.ก็อยู่ในพรรคการเมือง ซึ่งก็กำหนดนโยบายได้ ความเป็นพรรคการเมือง ตอนก่อเกิดมาจากสิทธิเสรีภาพของประชาชน แต่เมื่อรวมตัวกันแล้วก้าวไปไกลมาก นำรัฐไปดำเนินการอะไรก็ได้ ดังนั้น ต้องมีข้อกำหนดว่าพรรคการเมืองทำอะไรได้บ้าง ซึ่งการกู้เงินไม่ได้ผิดที่ตัวเอง หากกฎหมายไม่ให้ทำก็ทำไม่ได้
“จริงๆเมื่อเทียบกฎหมาย 2550 มีการกู้เงินกัน แต่กฎหมาย 2560 เขาไม่ให้ทำ หากถามตรงไปตรงมา ไปกู้เงินโดยกฎหมายไม่ให้กู้ ก็แสดงว่าขัดกฎหมาย ดังนั้น เงินกู้ต้องคืนเขาไป แต่กรรมการบริหารพรรคไม่ได้โดนตัดสิทธิ พรรคก็ไม่โดนยุบ เพราะไม่ใช่เงินเทาๆ ประเทศไทยต้องเขียนให้ละเอียด อะไรที่ห้ามเขียนให้หมด อย่างในรธน. ก็ควรมีการเขียนเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพในการจัดตั้งพรรคการเมือง โดยต้องเขียนว่าการกระทำใดๆต้องเป็นไปตามกฎหมายที่บัญญัติไว้ หากไม่เขียนก็ต้องเขียนว่า กระทำสิ่งใดที่ไม่ถูกห้ามในกฎหมาย ก็สามารถทำได้" รศ.ดร.เจษฎ์ กล่าว