ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแนวทางคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดีนี้มี 3 แนวทาง คือ
“ปิยบุตร” พร้อมเดินสายซักฟอกนอกสภา หากอนาคตใหม่ถูกยุบ
1. ศาลเห็นว่าผิดจริงตัดสินยุบพรรค และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ 10 ปี ตามแนวคำวินิจฉัยที่ศาลรัฐธรรมนูญได้เคยวินิจฉัยไว้ในคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งถ้าเป็นแนวทางนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ก็จะมีการดำเนินคดีอาญาตามหลังมาด้วย
2. ศาลเห็นว่าพรรคไม่มีความผิดตามมาตรา 72 ให้ยกคำร้อง
3. มีความผิด แต่เป็นความผิดตามมาตรา 62 มาตรา 66 พ.ร.ป.พรรคการเมืองเท่านั้น ไม่อยู่ในอำนาจที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาจึงยกคำร้องยุบพรรค
หากเป็นแนวทางนี้เรื่องดังกล่าวก็จะวนกลับมาที่กกต.จะต้องเป็นผู้พิจารณาดำเนินการตามระเบียบกกต.ว่าด้วยการสืบสวน ไต่สวนและวินิจฉัยชี้ขาด 2561 เพื่อที่จะดำเนินคดีอาญา ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 124, 125 ซึ่งจะเอาผิดเฉพาะผู้บริจาคเงินหรือทรัพย์สิน หัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคเท่านั้น
รวมทั้งอาจมีการดำเนินคดีในกรณีที่พรรคมีการนำเงินรายได้ของพรรคที่ได้จากการระดมทุน การรับบริจาค ขายของที่ระลึก ซึ่งกฎหมายกำหนดห้ามนำไปใช้เพื่อการอื่นใดนอกจากการดำเนินงานของพรรคการเมืองตามมาตรา 87 แต่การนำเงินดังกล่าวไปใช้หนี้เงินกู้ให้กับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อาจจะผิดตามมาตรา 132
"ปริญญา"หวั่น ยุบพรรคอนาคตใหม่ สร้างความขัดแย้งไม่จบ
"อิลลูมินาติ" เผาหลอก “เงินกู้” เผาจริง 21 ก.พ. นี้ “อนาคตใหม่” “เผาแน่”?