กองทัพภาคที่ 3 สั่งเร่งตรวจสอบซื้อบ้านทหารรุกป่าสงวนฯ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กรณีที่มีทหาร 2 นาย เข้าไปร้องเรียนกับตำรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่าซื้อบ้านใน อ.พรานกระต่าย จ.พิษณุโลก ตั้งแต่ปี 2559 โดยยื่นกู้ผ่านระบบสวัสดิการทหารบก แต่มารู้ภายหลังว่าบ้านหลังดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตอนนี้แม่ทัพภาคที่ 3 สั่งการให้ตรวจสอบและทหารลงพื้นที่หาข้อเท็จจริง

เจ้าหน้าที่บุกยึดไร่กาแฟรุกป่าสงวน

"บิ๊กแดง" สั่งเจ้ากรมสวัสดิการทหารบกตรวจสอบธุรกิจค่ายทหาร

ทีมข่าวพีพีทีวีลงพื้นที่ตามการร้องเรียนของทหาร 2 นาย ที่หมู่บ้านดังกล่าว ใน อ.พรานกระต่าย จ.พิษณุโลก และพบว่ามีทหารกว่า 10 นายระดับนายพลและนายพันลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย แต่ไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ ซึ่งให้ข้อมูลว่า  หมู่บ้านแห่งนี้ เป็นของบริษัทเอกชนที่ขายทอดตลาดกับธนาคาร และมีทหารมาช้อนซื้อบ้านบางหลังก่อนขายต่อ

เอกสารซื้อขายที่ยืนยันได้คือ ใบ นส.3 ก. นี่เป็นเอกสารของบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านแห่งนี้ โดยเอกสารแสดงการโอนชื่อหลายทอดตั้งแต่ปี 37-49 ที่ระบุได้ว่า ที่ดินดังกล่าวสามารถโอนรับต่อกันได้ตามปกติ

แต่พีพีทีวีได้ข้อมูลจากกรมป่าไม้ว่า เอกสาร นส.3 ก.ฉบับนี้อาจได้มาโดยมิชอบ เพราะล่าสุดส่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จังหวัดกำแพงเพชรและสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 (ตาก) ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วพบว่าหมู่บ้านแห่งนี้มีทั้งสิ้น 209 แปลง ที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาเขียว เขาสว่าง แต่มีเอกสารเป็น นส.3 ทั้งใบ ซึ่งป่าเขาเขียว เขาสว่าง ประกาศเป็นป่าสงวนตั้งแต่ปี 2517 มีบางส่วนเป็นที่ส.ป.ก. ไม่อาจออกเอกสารสิทธิอื่นได้ ตอนนี้กำลังตรวจสอบการได้มาของเอกสาร นส.3 ก หมู่บ้านแห่งนี้ กับที่ดินจังหวัดกำแพงเพชร ว่าออกมาได้อย่างไร

ส่วนข้อร้องเรียนของทหาร 2 นายที่ไปร้องกับตำรวจ ปทส.ว่า มีทหารสังกัดกรมสวัสดิการทหารบกเป็นคนพาไปดู  และให้ทำเรื่องกู้ยืมเงินเพื่อซื้อบ้านหลังนี้ ในราคา 1.5 ล้านบาท จากโครงการสวัสดิการทหารบก หรือ อทบ. และมีนายหน้าจะขอเช่าต่อ 100 เดือน เป็นเงิน 210,000 บาท และในเงินกู้ 1.5 ล้านบาท จะมีส่วนต่างที่เกิดจากการตกแต่งบ้านประมาณ 200,000 บาท จะเสนอให้กับผู้เสียหายคนนี้เป็นข้อแลกเปลี่ยน จึงยอมทำสัญญาซื้อขาย และผ่อนชำระกับธนาคารแห่งหนึ่ง

พลตรีอภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 ระบุว่า กองทัพภาคที่ 3 ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องดังกล่าว กำลังทำการตรวจสอบอยู่ เบื้องต้นพบว่า มีพลเรือน 64 ราย ทหาร 39 ราย ครอบครองหมู่บ้านนี้ และจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า มีกำลังพลเข้ามากู้กับกรมสวัสดิการทหารบกประมาณ 30 กว่าราย แต่ยังไม่ทราบว่าได้รับความเดือดร้อนทั้งหมดหรือไม่ เพราะมีผู้ครอบครอบบางคนเข้าไปพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแล้ว  

หมู่บ้านนี้เกิดขึ้นมาเมื่อช่วงประมาณปี พ.ศ.2537 ได้มีบริษัท A ทำโครงการหมู่บ้านจัดสรรขึ้นมาแต่ขายไม่หมด จนกระทั่งปี พ.ศ.2551 บริษัท B เข้ามาเทคโอเวอร์ ซึ่งภายในบริษัท B มีบุคคลที่รู้จักกับคนในกองทัพบก จึงทำโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อขายทหาร ซึ่งไม่ได้เป็นโครงการของกองทัพบก จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า โครงการหมู่บ้านจัดสรรดังกล่าว มีการออกเอกสารสิทธิ นส.3 ก  ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปข้อเท็จจริง

 

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ