เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2563 ศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในกรุงเทพมหานครขอรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (pm2.5) ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5)
ปชช.จี้หน่วยงานรัฐ เร่งเตือนปัญหาฝุ่น บางส่วนยังเข้าใจว่า “หมอก”
: ตรวจวัดได้ 54 -81 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐาน (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 41 พื้นที่ คือ
1.เขตราชเทวี บริเวณสำนักงานเขตราชเทวี : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.
2.เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณหน้าหัวมุม ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน) : มีค่าเท่ากับ 67 มคก./ลบ.ม.
3.เขตพญาไท หน้าแฟลตทหารบกใกล้โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ตรงข้ามกระทรวงการคลัง: มีค่าเท่ากับ 57 มคก./ลบ.ม.
4.เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน เอสโซ่ ซ.ลาดพร้าว 95 : มีค่าเท่ากับ 74 มคก./ลบ.ม.
5.เขตปทุมวัน บริเวณหน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์ : มีค่าเท่ากับ 66 มคก./ลบ.ม.
6.เขตบางรัก ข้างป้อมตำรวจหน้าลานบางรักเลิฟลี่ พลาซ่า : มีค่าเท่ากับ 68 มคก./ลบ.ม.
7.เขตบางคอแหลม บริเวณป้อมตำรวจสี่แยกถนนตก : มีค่าเท่ากับ 73 มคก./ลบ.ม.
8.เขตจตุจักร บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ : มีค่าเท่ากับ 61 มคก./ลบ.ม.
9.เขตบางกะปิ ข้างป้อมตำรวจตรงข้ามสำนักงาน เขตบางกะปิ : มีค่าเท่ากับ 81 มคก./ลบ.ม.
10.เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลลาดกระบังข้างป้อมตำรวจ : มีค่าเท่ากับ 79 มคก./ลบ.ม.
11.เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ : มีค่าเท่ากับ 57 มคก./ลบ.ม.
12.เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน : มีค่าเท่ากับ 68 มคก./ลบ.ม.
13.เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 72 มคก./ลบ.ม.
14.เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม (ประมาณซอยเพชรเกษม 36) : มีค่าเท่ากับ 72 มคก./ลบ.ม.
15.เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 67 มคก./ลบ.ม.
16.เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน : มีค่าเท่ากับ 71 มคก./ลบ.ม.
17.เขตพระนคร ภายในสำนักงานเขตพระนคร : มีค่าเท่ากับ 64 มคก./ลบ.ม.
18.เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอย ถนนเซนต์หลุยส์ : มีค่าเท่ากับ 65 มคก./ลบ.ม.
19.เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 80 มคก./ลบ.ม.
20.เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ : มีค่าเท่ากับ 61 มคก./ลบ.ม.
21.เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ : มีค่าเท่ากับ 69 มคก./ลบ.ม.
22.เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 73 มคก./ลบ.ม.
23.เขตสวนหลวง ริมถนนพัฒนาการ : มีค่าเท่ากับ 68 มคก./ลบ.ม.
24.เขตลาดพร้าว ริมถนนนาคนิวาส : มีค่าเท่ากับ 58มคก./ลบ.ม.
25.เขตคลองสามวา ริมถนนเลียบคลองสอง : มีค่าเท่ากับ 80 มคก./ลบ.ม.
26.เขตห้วยขวาง ริมถนนประชาอุทิศ : มีค่าเท่ากับ 57 มคก./ลบ.ม.
27.เขตสะพานสูง ริมถนนรามคำแหง : มีค่าเท่ากับ 62 มคก./ลบ.ม.
28.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ริมถนนหลานหลวง : มีค่าเท่ากับ 62 มคก./ลบ.ม.
29.เขตบางแค แขวงบางแค : มีค่าเท่ากับ 63 มคก./ลบ.ม.
30.เขตจอมทอง แขวงบางมด : มีค่าเท่ากับ 66 มคก./ลบ.ม.
31.เขตดอนเมือง ริมถนนวิภาวดีรังสิต : มีค่าเท่ากับ 66 มคก./ลบ.ม.
32.เขตดินแดง ริมถนนวิภาวดีรังสิต : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม.
33.เขตพระโขนง ริมถนนสุขุมวิท : มีค่าเท่ากับ 67 มคก./ลบ.ม.
34.เขตราษฎร์บูรณะ ริมถนนราษฎร์บูรณะ : มีค่าเท่ากับ 63 มคก./ลบ.ม.
35.เขตบางกอกใหญ่ ริมถนนเพชรเกษม สี่แยกท่าพระ : มีค่าเท่ากับ 66 มคก./ลบ.ม.
36.เขตตลิ่งชัน ริมถนนพุทธมณฑลสาย 1 : มีค่าเท่ากับ 65 มคก./ลบ.ม.
37.เขตทวีวัฒนา ริมถนนทวีวัฒนา : มีค่าเท่ากับ 73 มคก./ลบ.ม.
38.เขตดุสิต ริมถนนสุโขทัย : มีค่าเท่ากับ 63 มคก./ลบ.ม.
39.เขตหนองแขม ริมถนนเพชรเกษม : มีค่าเท่ากับ 74 มคก./ลบ.ม.
40.เขตบางบอน ริมถนนเอกชัย : มีค่าเท่ากับ 70มคก./ลบ.ม.
41.เขตทุ่งครุ ริมถนนประชาอุทิศ : มีค่าเท่ากับ 63 มคก./ลบ.ม.
นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในกรุงเทพมหานคร ได้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 อย่างต่อเนื่อง เพื่อประสานดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที โดยมอบหมายให้ 50 สำนักงานเขต หากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินเกณฑ์มาตรฐาน ให้ดำเนินการล้างทำความสะอาดถนนและทางเท้า และเพิ่มความถี่การพ่นฉีดละอองน้ำในอากาศเพื่อดักจับฝุ่นละอองอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร ตรวจสภาพเครื่องยนต์ตามระยะทางหรือระยะเวลาที่กำหนด ดูแลบำรุงรักษารถยนต์ไม่ให้เกิดควันดำ เพื่อป้องกันไม่ให้มลพิษเกินมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด
“ตลอดจนกำชับพนักงานขับรถยนต์ให้ดับเครื่องยนต์ทุกครั้ง เมื่อไม่ได้ปฏิบัติงานหรือจอดรถรอรับ-ส่ง รวมถึงเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมดูแลพื้นที่โครงการก่อสร้างในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะการกำชับกวดขันให้ผู้รับเหมาฉีดน้ำทำความสะอาดล้อรถบรรทุกหรือรถอื่นๆ ก่อนออกจากสถานที่ก่อสร้าง รวมถึงการล้างทำความสะอาดพื้นที่ก่อสร้างทุกวัน เพื่อลดการฟุ้งกระจายของฝุ่นละออง ในอากาศ นอกจากนี้ได้รณรงค์ประชาสัมพันธ์ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว หันมาใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ การบำรุงรักษาเครื่องยนต์ ตรวจสอบสภาพรถไม่ให้ปล่อยควันดำ งดเผาในที่โล่งแจ้ง รวมถึงการปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว เพื่อสภาพแวดล้อมที่ดีและลดมลพิษในอากาศ” นางศิลปสวย กล่าว
