ไฟป่าตราดไหม้ 6 วันติด จนท.เร่งดับ 24 ชม. คาดฝนตกสัปดาห์หน้า

เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2563 ปัญหาหมอกควันไฟจากไฟไหม้ป่าบนเทือกเขาบรรทัดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่ตำบลด่านชุมพล อ.บ่อไร่ ตำบลท่ากุ่ม ตำบลชำราก ตำบลตะกาง ตำบลแหลมกลัด อ.เมือง ตำบลไม้รูด ตำบลคลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ยังคงพบกลุ่มควันลอยขึ้นจากป่าหลายสิบจุดตลอดแนวเขาบรรทัด ส่งผลให้ควันจำนวนมากถูกแรงลมเข้าสู่เมืองตราด เป็นวันที่ 6 ติดต่อกันแล้ว เมื่อวานนี้เป็นวันที่มีหมอกควันไฟปิดปกคลุมทุกอำเภอของจังหวัดตราด และเช้าวันนี้ก็มีหมอกควันเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ไฟป่านครนายก ปะทุต่อเนื่อง จนท.เร่งนำ ฮ.ขนน้ำ 3,000 ลิตร ช่วยดับไฟ

ล่าสุดกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด นำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินสำรวจพื้นที่ตามแนวเขาบรรทัดตั้งแต่อำเภอบ่อไร่ ไปจนถึงอำเภอคลองใหญ่ พบว่าพื้นที่ของจังหวัดตราด ยังคงมีไฟไหม้ป่าเป็นบางจุด แต่ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ยังคงมีไฟไหม้ป่าอีกหลายจุด และมีควันไฟลอยเข้ามายังจังหวัดตราด ตามทิศทางลม โดยมีนายฐิตินันท์ อุดมสุข หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตราด ร่วมเดินทางสำรวจด้วย

ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทุกคนระดมกำลังเข้าไปดับไฟกันตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟนั้นลุกลามไปมากกว่านี้ แต่ยังคงประสบปัญหาที่บางพื้นที่ยังคงมีทุ่นระเบิดอยู่ ทำให้ไม่สามารถดับไฟ นอกจากนี้ได้ประสานไปยังฝนหลวง ให้ช่วยทำฝนหลวงในพื้นที่จังหวัดตราด เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในจังหวัดตราด และทราบว่าในปลายสัปดาห์นี้พยากรณ์อากาศได้แจ้งว่า อาจจะมีฝนตกลงมา ซึ่งจะทำให้สถานการณ์นั้นดีขึ้น

ส่วนสาเหตุที่ทำให้จังหวัดนั้นมีหมอกควันเยอะในช่วงนี้ เนื่องจากปกติจังหวัดตราดในช่วงนี้จะมีลมตะเภา แต่กลับไม่มี ทำให้หมอกควันไม่ไปไหน ประกอบกับทิศทางลมช่วงนี้เวลาประมาณ 19.00 น. ถึงช่วง 03.00 น. ลมจะพัดเข้าสู่เขาบรรทัดไปยังฝั่งกัมพูชา จากนั้นช่วงเช้ามืดลมจะพัดจากฝั่งกัมพูชาลงสู่ทะเล ซี่งต้องผ่านหลายตำบลของจังหวัดตราด

ฝุ่นPM2.5 พบเกินมาตรฐาน 41 จุดทั่วพื้นที่กทม.

อบต.เขาพระ สำรวจไฟป่าพบจุดเสี่ยงเข้าบ้านเรือนประชาชน

ด้านสถานการณ์ไฟที่ลุกไหม้ในป่า บริเวณกลางเขาพื้นที่ตำบลเขาพระ อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ยังดับไฟไม่ได้ และเกรงว่าจะลุกลามลงมาในพื้นที่หมู่ 8 และหมู่ 9 ซึ่งมีริสอร์ทและบ้านเรือนประชาชนอยู่ ทางหน่วยงานราชการทุกหน่วยต่างประสานกันทำงานอย่างเร่งรีบเพื่อให้ดับไฟหรือจำกัดไม่ให้ลุกลามลงมาสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนได้ จึงใช้โดรนบินสำรวจ จากนั้นใช้เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพอากาศ บินขึ้นใช้น้ำดับไฟ และใช้คนเดินเข้าไปในพื้นที่เพื่อทำแนวกันไฟ ร่วมกับใช้รถน้ำกว่า  10 คัน ฉีดน้ำเข้าสกัดกั้นเพลิงเพื่อไม่ให้เข้ามาเขตบ้านเรือนประชาชนได้ นอกจากนี้ยังได้จัดชุดเวรยามเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง  ซึ่งได้สร้างความมั่นใจให้ประชาชนว่า เพลิงจะไม่ลุกลามมาถึงบ้านเรือนอย่างแน่นอน

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline