วันที่ 2 มี.ค. 2563 ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(บอร์ด สปสช.)หรือ บอร์ดบัตรทอง ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมว่า บอร์ดสปสช.มีมติเห็นชอบ ให้กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อยู่ในประเภทและขอบเขตบริการสาธารณสุขในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) พร้อมอนุมัติหลักการให้ใช้เงินกองทุน รายการรายได้สูง (ต่ำ) กว่าค่าใช้จ่ายสะสม จำนวนไม่เกิน 1,020 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการเบิกจ่ายในกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของหน่วยบริการ นอกจากนี้ ในวันที่ 3 มีนาคม 2563 จะเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในการของบประมาณกลางปี มาใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคนี้ด้วย
สธ.พบหญิงไทยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 1 ราย ทำงานร่วมกับผู้ป่วย
นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) กล่าวว่า ในส่วนของงบประมาณสปสช.ที่บอร์ดอนุมัติแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1.งบประมาณจำนวน 1,020 ล้านบาท ซึ่งเป็นจากส่วนกำไรสะสมที่มีอยู่รวม 4,000 ล้านบาท โดยบอร์ดได้ให้มีการขยายขอบเขตนำมาใช้เป็นค่ารักษาในกรณีโรคโควิด-19ได้ 2.งบค่าเสื่อม มีการขยายขอบเขตการใช้งบนี้ให้สถานพยาบาลต่างๆสามารถนำมาใช้เพื่อปรับปรุงสถานพยายาลรองรับโรคอุบัติใหม่ได้ เช่น การสร้างห้องแยกโรคความดันเป็นลบ หรือจัดหาเครื่องมือต่างๆ รอประธานบอร์ดลงนาม และ3.งบกองทุนตำบลที่มีเงินอยู่ 3,000 ล้านบาท สามารถเสนอขอเพื่อใช้ดำเนินการในการส่งเสริมป้องกันโรคให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องโรคโควิด-19และการป้องกันตนเองมากขึ้น
“นอกจากนี้ เนื่องจากโรคโควิด-19เป็นโรคอุบัติใหม่ ในงบประมาณปี 2563 ยังไม่มีการพิจารณาโรคนี้ในการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลสิทธิบัตรทอง ดังนั้น จึงจะมีการเสนอครม.ของบกลางปีจำนวน 3,500 ล้านบาทมาใช้เป็นค่ารักษาโรคนี้ในช่วง 7 เดือนที่เหลือของปีงบ63ด้วย”นพ.ศักดิ์ชัยกล่าว
สธ.ย้ำไทยระบาดโควิด-19 ‘ระยะ 2’ ยังไม่ถึงขั้นแพร่เชื้อระหว่างคนไทย