สอบตก !! “ยุทธการอรุณรุ่ง” ทำเพื่อไทย คะแนนนิยมร่วง ??  


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เลือกคนผิดหรือวางยุทธศาสตร์พลาด ทำ “เพื่อไทย” เสียคะแนน แถมผิดใจ “อนาคตใหม่” ซ้ำ ปล่อยเวทีซักฟอก เป็นเวทีฟอกตัวให้รัฐบาล 

ผ่านพ้นไปหมาดๆกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ผ่านฉลุยสำหรับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาและอีก 5 รัฐมนตรี แม้จะรู้เต็มอกว่า โหวตยังไงก็ฉลุย แต่หัวใจหลัก คือ เปิดแผลรัฐบาลให้ประชาชนเห็นว่าบริหารงานล้มเหลวอย่างไร

เปิดยุทธการ “อรุณรุ่ง” ฝ่ายค้านล็อกเป้าซักฟอกหวัง จันทร์ดับ

แต่ฝ่ายที่ล้มเหลวกลับไม่ใช่รัฐบาล กลายเป็นฝ่ายค้าน โดยเฉพาะแกนนำอย่างเพื่อไทย ที่ก่อนอภิปรายฯ ตีฆ้องร้องป่าว โหมโรงอย่างหนัก ของคณะกรรมการกิจการพิเศษ ที่นำโดยร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เปิด “ยุทธการอรุณรุ่ง” ว่ามีหมัดเด็ด ข้อมูลเด็ด หมัดน็อกที่เอาบิ๊กตู่ตายกลางสภาแน่นอน

ตัวเด็ดที่ว่า “เดอะโจ้” ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม นำแถลงข่าวใหญ่โตว่า มีข้อมูลเด็ดเรื่องการเอื้อผลประโยชน์เจ้าสัวใหญ่ของ “นายกฯบิ๊กตู่” โดยเกริ่นหัว คือ การให้สัมปทานเช่า 50 ปี ของศูนย์สิริกิติ์ฯ ตามด้วยขบวนการช่วยเหลือคดีบริษัทยาสูบข้ามชาติหลีดเลี่ยงการจ่ายภาษีให้กับไทย พ่วงด้วยเรื่องลับสุดยอดอันเป็นที่มาของชื่อยุทธการอรุณรุ่ง

แต่เซียนการเมืองก็สงสัยว่า ถ้ามูลข้อเด็ดจริงทำไมต้องมาเปิดหัวเฉลยการบ้านก่อน แถมถึงวันจริง “บางเรื่อง” ที่เปิดหัวไว้กลับหายไปจากสคริปต์ของยุทธพงศ์อีกด้วย

นอกจากเรื่องข้อมูลหมัดน็อกแล้ว เรื่องรายชื่อรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายฯ ก็อีกเรื่องหนึ่งที่เซียนการเมืองตั้งข้อสงสัย โดยเฉพาะชื่อพี่ใหญ่ 3 ป. อย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ ร.ต.อ.เฉลิม จะไม่อภิปรายฯ โดยให้เหตุผลว่า ไม่มีข้อมูลอะไรใหม่เพราะเรื่องต่างๆส่วนใหญ่จบไปหมดแล้ว

“เฉลิม” เปิดยุทธการอรุณรุ่ง ซักฟอก “บิ๊กตู่” ไม่ได้เอื้อแค่เจ้าสัว

ทำให้หนึ่งในทีมกิจการพิเศษอย่าง “ศรัณย์วุฒิ ศรัณเกตุ” ส.ส.คนดังจากอุตรดิตถ์ ที่จองกฐิน “บิ๊กป้อม” ไว้แต่ต้น ออกอาการไม่พอใจ ประกอบกับมีข่าวออกมาเป็นระยะว่า มีการต่อรองมหาศาลไม่ให้มีชื่อพี่ใหญ่ของรัฐบาล ถึงขนาดที่จอมแฉ อย่าง “ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์” ออกมาบอกว่า มีพญางูเห่า ต่อรองล้มอภิปรายอยู่นอกสภา

จนแล้วจนรอดสุดท้าย ชื่อของ “บิ๊กป้อม” ก็มาติด 1 ใน 6 รัฐมนตรี แต่ไม่ใช่การผลักดันจากทีมกิจการพิเศษ หรือพรรคเพื่อไทย แต่เป็น “อนาคตใหม่” ที่ไม่ยอม ยืนยันต้องใส่ชื่อ พลงอ.ประวิตร ในนาทีสุดท้าย โดยยืนยันว่า อนาคตใหม่มีข้อมูลจำนวนมากและทำการบ้านเพื่อจะมาอภิปรายมาเป็นอย่างดี   

เริ่มวันแรก หมัดเด็ดที่ว่าอย่างยุทธพงศ์อภิปรายคนแรกภายหลังการแถลงเปิดญัตติ ถึงขนาดที่ “ทีมกิจการพิเศษ” บอกว่า ยุทธพงศ์คนเดียวเอาอยู่ คนเดียวก็ยิงพล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาล แดดิ้นคาทิ้ง ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นไปยิงคนตายซ้ำให้เปลืองกระสุน

เบื้องหลัง ทำไม ? “บิ๊กป้อม” คะแนนมากสุด “ธรรมนัส” น้อยสุด

แต่หลังยุทธพงศ์อภิปรายได้ไม่ถึงครึ่งทาง ทั้งพรรคพวกในสภาฯ และประชาชนที่เฝ้าจออยู่ทางบ้าน เริ่มจับได้ว่าการอภิปรายชักทะแม่งๆ ยิ่งพออภิปรายจบ ก็ได้รับเสียงโห่มากกว่าเสียงเฮ

ข้อมูลส่วนใหญ่ของยุทธพงศ์แทบจะไม่อะไรใหม่ เป็นข้อมูลชุดเดียวกับที่เคยแถลงข่าว หรือสื่อเล่นข่าวไปหมดแล้ว วนเวียนเน้นใช้วาทกรรมมากกว่าข้อมูล เหมือนมีภารกิจมา “เผาเวลา” ของฝ่ายค้านทิ้งเล่น นอกจากนี้เวลาส่วนใหญ่จึงหมดไปกับการถูกประท้วง ไม่เหมือนที่ได้โหมโรงไว้

ขณะที่ “บิ๊กตู่” ลุกชี้แจงและนำข้อมูลต่างๆมายืนยันประหนึ่งเหมือนเคยเห็นข้อสอบมาก่อนพร้อมโยนให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องชี้แจงได้ เรียกได้ว่าแทบทุกเรื่อง โดยเฉพาะรายของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่ตระเตรียมสไลด์มาชี้แจงได้แม้กระทั่ง “จุดทศนิยม”

ผ่านฉลุย! สภาฯ โหวตไว้วางใจ นายกฯพร้อมรมต. 5 คน

เมื่อผ่านไปในวันแรก “ยุทธการอรุณรุ่ง” เริ่มไม่เหมือนที่โหมโรงไว้ ร้อนไปถึงประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ต้องโดดมาบัญชาเองที่ห้องวอร์รูม เพื่อจัดสรรผู้อภิปรายและวางแผนการอภิปรายใหม่ ทำให้การอภิปรายเริ่มมีสีสันขึ้นใน 3 วันที่เหลือ กู้หน้าให้พรรคเพื่อไทยและฝ่ายค้านกลับมาได้ส่วนหนึ่ง 

จนถึงคิวของ ศรัณย์วุฒิ อีกหนึ่งหมัดเด็ด ของ “ทีมกิจการพิเศษ” ดูเหมือนจะน่าผิดหวังอีกเช่นกัน เพราะมีการใช้เวลามากพูดแบบจบไม่ลง เน้นวาทกรรมมากกว่าข้อมูล พูดไปถูกประท้วงไป แม้จะมีข้อมูลมากแต่ก็เป็นข้อมูลไม่ใหม่ ทำให้รัฐบาลชี้แจงได้แบบไม่ยากเย็น คือเรียกว่า เน้นเอามันท่าเดียวถึงขั้นท้า “บิ๊กตู่ยิง”

เมื่อการบริหารเวลาผิดพลาด มีการใช้โควต้าเวลาคนอื่นมากไป ผลที่ตามมาเวลาที่งวดเข้ามาเรื่อยๆ โดยเฉพาะวิปรัฐบาลเอง ก็เน้นเรื่องเวลาเหมือนยากให้จบไว้ๆอยู่แล้ว ลุกขึ้นย้ำเรื่องเวลาเป็นระยะๆ ฝ่ายค้านเองดูเหมือนจะชะล่าใจ หรืออยากให้จบไวๆเหมือนกันอันนี้มิทราบได้

"สุทิน"รับอภิปรายฯ วันแรกไม่เป็นไปตามเป้า

เป็นอย่างที่คาดรัฐบาลตัดสินใจขอปิดอภิปรายเมื่อหมดเวลา แม้ฝ่ายค้านจะลุกขึ้นขอหารือและขอเวลาเพิ่ม แต่ก็ไม่เป็นผล เมื่อมีคนอภิปรายได้ไม่ครบและส่วนใหญ่ยังเป็น “คนอนาคตใหม่” ความวุ่นวายจึงเกิดขึ้น

ฝ่ายค้าน ตัดสินใจทำเหมือนที่ผ่านมา วอล์คเอาท์ออกมาจากห้องประชุม โดยเป็นส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ ที่นำวอล์คเอาท์แต่ต้น ด้วยความไม่พอใจมากที่สุด เพราะคนในสังกัดหลายคนยังไม่ได้อภิปรายฯ ก่อนที่พรรคเพื่อไทยจะเฮโลออกจากห้องประชุมในภายหลัง

อาจเพราะข้อมูลที่เรียกว่าเป็นไฮไลท์ ไม่แพ้เรื่องไอโอหรือเรื่องคุณสมบัติของผู้กองมนัส เป็นข้อมูลของพี่ใหญ่ 3 ป. จึงสร้างความไม่พอใจกว่าเดิมกับอนาคตใหม่ จนต้องลงมาใช้พื้นที่แถลงข่าวภายในรัฐสภาเป็นที่อภิปรายแทน

หลังจากอภิปรายจบ ได้ตั้งถามไปแรงๆยังเพื่อไทยว่า รับงานมา จงใจดึงเวลาเพื่อช่วยบิ๊กป้อมหรือไม่ นี่เป็นเกมการเมืองต่อรองผลประโยชน์ใช่หรือไม่ และ 3-4 วันในการอภิปรายส.ส.อนาคตใหม่แทบไม่ได้ช่วงเวลาไพรม์ไทม์เลย

ทำให้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ อย่าง “เฮียพงษ์ - สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” ตกอยู่ในสภากลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะก็ได้พยายามทำหน้าที่ประสานสิบทิศแล้วกับทุกฝ่าย แต่ด้วยความเป็นผู้ใหญ่ก็ต้องให้เกียรติทุกฝ่าย และไม่พยายามที่จะหักใคร แต่ต้องกลายเป็นคนช้ำที่สุด เพราะถูก “คนใน” หักหลังกันเอง

“เพื่อไทย” จัด 18 ขุนพล ศึกซักฟอกรัฐบาล “บิ๊กตู่”  

อย่าลืมว่าแม้สมพงษ์ จะเป็นหัวหน้าเพื่อไทยและเป็นผู้นำฝ่ายค้าน แต่บทบาทหน้าที่ในการนำอภิปรายครั้งนี้ เป็นหน้าที่ของ “ทีมกิจการพิเศษ” ที่อ้างว่า มีไฟเขียวมาจากแดนไกล จึงไม่มีใครเข้ามาก้าวก่าย แต่เน้นให้ความร่วมมือ เพราะไม่ได้เป็นคนตัดสินใจ       

ขณะนี้เกิดคำถามขึ้นภายในว่า ทีมกิจการพิเศษที่ตั้งขึ้นมา อยากจะซักฟอกจริงๆหรือไม่ ทำไมจากเวทีซักฟอกรัฐบาลกลายเป็นเวทีให้รัฐบาลฟอกตัว เพราะข้อมูลหลายอย่างที่รัฐบาลออกมาชี้แจง เหมือนรู้ สรุปแล้วมีการเจรจาต่อรองจริงๆหรือไม่

“สุทิน” เผย ปรับความเข้าใจ อนาคตใหม่แล้ว ยัน ไม่มีคุณขอมา

ถือว่า “ค่ายเพื่อไทย” วางยุทธศาสตร์การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ผิดพลาดมหันต์ เพราะการเลือกใช้คนที่ผิดพลาดหรือไม่ ทำให้พรรคที่เป็นแกนนำฝ่ายค้านแท้ๆ กลับเสียคะแนน โดนโลกโซเชียลถล่มหนัก ว่ารู้เห็นกับรัฐบาล เป็นมวยล้มต้มคนดู

พรรคที่ได้คะแนนไปเต็มๆและได้ภาพการเป็นพรรคนำในการซักฟอกรัฐบาล กลับกลายเป็นอดีตพรรคอนาคตใหม่ ทั้งที่ยังใหม่เรื่องการเมือง ไม่มีประสบการณ์ในสภา

หลังจากนี้ “ผู้มีอำนาจตัวจริง” ของพรรคเพื่อไทย คงต้องสะสางเช็คบิลว่าเกิดอะไรขึ้น หรือมีเกียร์ว่าง-รับงาน จนเสียหายไปถึงแดนไกล

รวมทั้งถึงเวลาต้องเลือกแล้วว่า คณะทำงานชุดไหนกันแน่ ที่จะใช้เป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนพรรคต่อไป ขืนปล่อยให้ “ทีมเดิม” ทำต่อ คะแนนนิยมคงมีแต่ร่วงกับร่วง วันหนึ่ง “อดีตอนาคตใหม่” ที่เหลือ ส.ส.แค่ครึ่งร้อยชีวิต คงได้ขึ้นขี่ “เพื่อไทย” แบบถาวร

“เพื่อไทย” เดือด ส.ส.รุมจวกแกนนำ ทำศึกซักฟอกเหลว บริหารขาดเอกภาพ   

 

 

 

 

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ