สธ. เผยแรงงานไทยกลับเกาหลีมีไข้ 19 คน ตรวจไม่พบโควิด-19  


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กระทรวงสาธารณสุขเผยหลังไม่พบเชื้อโควิด -19 ในแรงงานไทยจากเกาหลีใต้ แต่ต้องติดตามต่อจนครบ 14 วัน แจงสต็อกหน้ากากในสถานพยาบาล 8 ล้านชิ้น มอบผอ.-สสจ.-ผู้ตรวจเกลี่ยให้เพียงพอ  

เมื่อวันที่ 4  มี.ค.2563  ที่กระทรวงสาธารณสุข  นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน สาธารณสุขนิเทศและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่า สำหรับแรงงานไทยที่กลับจากเกาหลีใต้และเข้ามาเมืองไทยเมื่อคืนวันที่ 3 มี.ค. ที่ผ่านมา พบว่ามีไข้ 17 ราย และก่อนหน้านี้อีก 2 รายนั้น ผลตรวจออกมาทั้ง 19 ราย ไม่มีเชื้อไวรัสโคโรนา2019 แต่อย่างใด ทั้งนี้จะมีการติดตามอย่างใกล้ชิดทุกรายจนครบ 14 วัน โดยในส่วนของแรงงานที่มาจากเกาหลีใต้นั้นเป็นคนไทยเหมือนกัน ย่อมได้รับสิทธิในการรักษาพยาบาลเช่นเดียวกัน ดังนั้นขออย่ารังเกียจ เปิดโอกาสให้เขาได้แสดงด้วยด้วย

กระทรวงแรงงาน แนะ “แรงงานไทยถูกกฎหมาย” กลับจากเกาหลีใต้ กักตัวเอง 14 วัน

“บิ๊กตู่” เตรียมพื้นที่ควบคุม 14 วันแรงงานไทยกลับจากเกาหลี     

“คนที่เดินทางกลับมาจากประเทศระบาดนั้นขอความร่วมมือหากเมื่อพบมีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หอบเหนื่อย อย่างใดอย่างหนึ่งให้ประสานสถานพยาบาลเพื่อนำสู่ระบบการตรวจรักษาที่เหมาะสมต่อไป หากไม่พบอาการต้องสงสัย ให้กักตัวเองในที่พัก 14 วัน งดการร่วมกิจกรรมต่างๆ  แยกห้องนอน แยกสำรับอาหาร สวมหน้ากากอนามัย และอยู่ห่างคนในบ้านอย่างน้อย 2 เมตร” โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า สำหรับรายงานตัวเลขหน้ากากอนามัยสำหรับใช้ในสถานพยาบาล ตัวเลขรายงานสะสมวันที่ 26 ก.พ. จากทั้ง 12 เขตสุขภาพ พบว่าต่ำสุดมี 1.7 แสนชิ้นต่อเขตสุขภาพ มากสุดอยู่ที่ 1.5 ล้านชิ้นต่อเขต รวมแล้วประมาณ 8 ล้านชิ้น ส่วนจะใช้ได้นานแค่ไหน พอหรือไม่นั้น เป็นหน้าที่ ผอ.รพ. นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ต้องบริหารสต็อกให้เกิดประโยชน์ที่สุด ให้เกลี่ยกันได้ ส่วนที่จะได้เพิ่มมาเติมมา จากข้อมูลจากองค์การเภสัชกรรม (อภ.)  ตั้งแต่ 10 ก.พ.-3 มี.ค. ได้รับหน้ากากอนามัยเฉลี่ยต่ำสุดได้รับอยู่ที่ 5 หมื่นชิ้นต่อวัน สูงสุดเฉลี่ย 5 แสนชิ้นต่อวัน เฉพาะวันที่ 3 มี.ค.ได้รับหน้ากากอนามัย 1.9 แสนชิ้น 

“อาจจะมีบางที่บอกว่าขาด ต้องร้องขอ และมีการเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียนั้น ซึ่งรับฟังทุกเสียง แต่ก็มอบ สสจ. ผู้ตรวจฯ ไปแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด บางแห่งบอกอาจจะปิดให้บริการ ซึ่งอย่าเพิ่งทำ เพรามีระบบการบริหารจัดการอยู่ เพราะถ้าระดับผอ.อาจจะมองทรัพยากรเฉพาะในรพ. แต่ สสจ.จะมองข้ามรพ.กันได้ หากจังหวัดยังไม่พอ จะมีผู้ตรวจราชการเขตที่มองข้ามจังหวัดไปอีก จะมีระดับการบริหารเป็นชั้นๆ ไปเอาของมาเกลี่ยกัน ตามนโยบายรองนายกรัฐมนตรี คือเสียเท่าไหร่ไม่ว่าบุคลากรต้องมาก่อน จึงรับเป็นแนวปฏิบัติเพื่อความมั่นใจ หากไม่พอก็ขอให้แจ้งมา เรารับฟังทุกเสียง” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าเนื่องจากมีรายงานบางบริการทำเรื่องถึงผอ.รพ. ให้ปิดให้บริการบางหัตถการ เช่น ทันตกรรม รายละเอียดเป็นเช่นไร มีสั่งปิดไปแล้วหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์  กล่าวว่า อย่างที่ชี้แจงไปว่าได้มอบผอ.รพ. สสจ. และผู้ตรวจฯ ไปจัดการแก้ไขปัญหา แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่ามีรพ.ในสังกัดต้องปิดให้บริการบางหัตถการ เช่น ทันตกรรม ยังคงให้บริการอยู่ อย่างไรก็ตาม อาจจะต้องมีการพิจารณาเรื่องคิว และความเร่งด่วนที่จำเป็นต้องรักษากันด้วย

“บิ๊กตู่” ถกด่วน มาตรการรับมือ ผีน้อยกลับไทย ต้องรัดกุมที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่ากรมการค้าภายในเคยชี้แจงว่ามีการจัดสรรโควต้าหน้ากากอนามัยให้บุคลากรทางการแพทย์ราวๆ 3.5 แสนชิ้นต่อวัน แต่ตัวเลขที่รายงานไม่ถึง นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบรายละเอียด แต่รายงานตัวเลขดังกล่าวคือตัวเลขสรุปจากองค์การเภสัชกรรมที่ได้รับมา ส่วนความต้องการใช้หน้ากากอนามัยนั้น บุคลากรในสังกัดกระทรวงมีประมาณ 4 แสนคน ถามว่าจำนวน 3.5 แสนชิ้นจะพอหรือไม่ก็ตอบว่าพอ เพราะมีบางส่วนที่ปฏิบัติงานในออฟฟิศ อย่างไรก็ตามที่ปฏิบัติงานในรพ.จริง ก็ต้องยอมรับว่ามีความต้องการใช้เพิ่มมากขึ้น เช่นเจ้าหน้าที่เวรเปล เจ้าหน้าที่การเงิน เดิมอาจจะใส่หน้ากากอนามัยบ้าง ไม่ใส่บ้าง แต่วันนี้ทุกคนต้องใส่ เพราะมีการสัมผัสกับผู้ป่วยเช่นกัน 

 

 

 

 

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ