ผีน้อย คือ เปิดคำนิยามกลุ่มแรงงานไทยจากเกาหลีใต้ หลังเผชิญปัญหาโควิด-19
“อนุทิน” เผยรับมือผีน้อยจากเกาหลีเหมือนไทยกลับอู่ฮั่น
เมื่อวันที่ 4 มี.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เพื่อหามาตรการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในกลุ่มแรงงานไทยผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ ตามคำสั่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ก่อนที่แรงงานไทยจะเข้ามาเมืองไทย ต้องผ่านการตรวจสอบหลายอย่างซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 วัน แต่ตอนนี้ได้มีการประสานกระทรวงการต่างประเทศเพื่อขอให้ยืดระยะเวลาให้คนไทยที่จะกลับมาต้องมีการเฝ้าระวังในพื้นที่ก่อน 14 วัน แล้วค่อยให้ขึ้นเครื่องกลับมาที่ประเทศไทย โดยก่อนขึ้นเครื่องต้องวัดไข้ก่อน ซึ่งประสานสายการบินถ้ามีไข้ก็ไม่ให้ขึ้นเครื่อง ส่วนที่เข้ามาได้ เมื่อมาถึงไทยแล้วก็ต้องมาเฝ้าระวังโรคในพื้นที่ที่รัฐจัดหาให้อีก 14 วัน เพื่อสร้างความมั่นใจกับสังคม ทั้งนี้ ยืนยันว่ามีแพทย์ บุคลากร และเครื่องมือแพทย์รองรับแน่นอน เพราะไม่ได้กลับมารอบเดียวจำนวนเยอะมากๆ
“บิ๊กตู่” ถกด่วน มาตรการรับมือ ผีน้อยกลับไทย ต้องรัดกุมที่สุด
อย่างไรก็ตามมาตรการที่ว่ามานี้ไม่ได้ดำเนินการเฉพาะแรงงานไทยเท่านั้น แต่รวมถึงทุกคนที่มาจากทุกเมืองในเกาหลีใต้ ซึ่งเราไม่กล้าบอกว่า คนที่เข้ามาแล้วจะไม่มีเชื้อ จะเป็นศูนย์ แต่ถ้ามีก็จะน้อยที่สุด แต่เราสามารถสกรีนได้ ถ้าเจอก็ต้องดูแลจัดการได้ ตอนนี้เริ่มทยอยแล้ว เมื่อตรวจเชื้อไม่เจอก็นำไปอยู่ในพื้นที่ที่เราจัดหาให้ ไม่ได้ให้กลับบ้าน ส่วนคนที่กลับเข้ามาก่อนหน้านี้นั้นได้มีการติดตามอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัย โดยเฉพาะในรพ.ทำให้สังคมตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการรัฐบาล เพราะสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสฯ ไม่ใช่เพิ่งเกิด นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ ทางผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ทั้ง 12 เขตสุขภาพรายงานว่ายังบริหารจัดการได้ มีแต่คาดว่าจะขาดแคลนหากไม่บริหารจัดการ ซึ่งเป็นการคาดว่าจะขาดแคลนมาเป็นเดือนแล้วเหมือนกัน บางครั้งต้องดูภาพรวม หากมีบุคลากร 1 คน เดินไป 1 ห้องแล้วหาหน้ากากอนามัยไม่เจอก็คงไม่ใช่ บางครั้งต้องดูก่อน ที่รายงานหน้ากากอนามัยยังมีหลายแสนชิ้น ที่พอให้ทำงานได้อยู่ ซึ่งเมื่อวันที่ 3 มี.ค. ทางกระทรวงพาณิชย์ ก็มีมาตรการแก้ไขแล้ว และห้ามส่งออก องค์การเภสัชกรรมก็พร้อมซื้อวันละ 3.5 แสน ทุกวัน
เมื่อถามถึงกรณีมีบริษัทประกันมามอบประกันชีวิตให้กับสถาบันบำราศนราดูร แต่บุคลากรสาธารณสุขที่ต่อสู้กับไวรัสนี้มีทั้งประเทศ กระทรวงจะมีมาตรการดูแลคนกลุ่มนี้เพิ่มเติมอย่างไรหรือไม่ นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เดิมกระทรวงจะมีกองทุนช่วยเหลือผู้ปฏิบัติงานที่ได้รับผลกระทบจากการให้บริการสาธารณสุขอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ กระทรวงได้สั่งการให้สำรวจว่ามีใครบ้างที่ทำงานโดยตรงกับผู้ป่วย และประสานไปยังบริษัทประกันสุขภาพให้เจ้าหน้าที่ให้ครอบคลุมคนทำงานทั้งหมดด้วย ขณะเดียวกันกรมการแพทย์ก็มีการตั้งกองทุนช่วยเหลือเพิ่มเติมเช่นกัน ขณะที่งบกลางที่ครม.อนุมัติเมื่อวันที่ 3 มี.ค.ก็นำส่วนหนึ่งเป็นค่าเสี่ยงภัยให้คนทำงานด้วย
