เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2563 นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) แถลงข่าวสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า ล่าสุดรายงานพบผู้ป่วยยืนยัน 4 รายจากอิตาลีและอิหร่าน โดยสรุปผู้ป่วยยืนยันที่รักษาหายแล้ว 31 ราย ยังรักษาตัวอยู่ใน โรงพยาบาล 15 ราย เสียชีวิต 1 ราย ผู้ป่วยสะสมในประเทศไทยขณะนี้ 47 ราย สำหรับผู้ป่วยอาการหนัก 1 ราย ที่รักษาตัวอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร ตรวจไม่พบเชื้อกว่าสัปดาห์แล้ว แต่ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ สำหรับผู้ป่วย 4 ราย ประกอบด้วย
ราชกิจจาฯ ประกาศให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน
กรมอนามัยยืนยัน “หน้ากากผ้า” มีขนาดใยเล็ก ป้องกันเชื้อได้ 59%
รายที่ 1 เป็นชายชาวอิตาลี อายุ 29 ปี อาชีพพนักงานบริษัท เดินทางมาจากประเทศอิตาลี เดินทางเข้าประเทศไทยวันที่ 1 มีนาคม 2563 เดินทางมารักษาด้วยตนเองที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2563 ด้วยอาการ ไข้ ไอ ส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลชลบุรี
รายที่ 2 เป็นชายชาวไทย อายุ 42 ปี อาชีพพนักงานบริษัท มีประวัติเดินทางมาจากประเทศอิตาลี เดินทางเข้าประเทศไทยวันที่ 2 มีนาคม 2563 เดินทางมารักษาด้วยตนเองที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ในจังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2563 ด้วยอาการ ไข้ ไอ เจ็บคอ ทั้ง 2 รายนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
รายที่ 3 ชายชาวจีนอายุ 22 ปี เป็นนักศึกษา เดินทางมาจากประเทศอิหร่านเพื่อต่อเครื่อง เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2563 โดยเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศที่สนามบินสุวรรณภูมิตรวจพบ ไข้ ไอ น้ำมูก ในระหว่างการต่อเครื่อง จึงส่งรักษาตัวที่สถาบันบำราศนราดูร
รายที่ 4 ชายชาวไทย อายุ 20 ปี เป็นนักศึกษา เดินทางกลับมาจากประเทศอิหร่าน เดินทางเข้าประเทศไทยวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 เดินทางมารักษาด้วยตนเองที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2563 ด้วยอาการไข้ มีน้ำมูก
หมอยันประชาชนไม่ป่วย ยังต้องสวมหน้ากากผ้าป้องกันโควิด-19
นพ.สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า ตามที่ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการให้กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงกลาโหม กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาสถานที่เพื่อเตรียมการจัดให้เป็น “พื้นที่ควบคุมโรค” รองรับผู้เดินทางกลับจากประเทศเสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของภาครัฐ และเตรียมชุดปฏิบัติการในพื้นที่ควบคุมโรคทุกแห่งนั้น กระทรวงสาธารณสุขจึงได้จัดทำหลักเกณฑ์ลักษณะสถานที่กักกัน (สถานที่ หรือ พื้นที่ควบคุมโรค) รองรับข้อสั่งการฯพณฯ นายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นแนวทางให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยหลักเกณฑ์นี้ประกอบไปด้วย การจัดสถานที่ การรักษาความปลอดภัย ห้องครัว ห้องพยาบาล ระบบจัดการขยะ สถานที่อำนวยความสะดวกอื่นๆ การจัดเจ้าหน้าที่ดูแลในแต่ละวัน
นพ.สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน มีข้อสั่งการให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เตรียมสถานที่รองรับผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดให้อยู่ในพื้นที่ในช่วงระหว่างการควบคุมโรค ดังนั้น ขอความร่วมมือผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดอย่างต่อเนื่องขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเดิมเราให้พำนักที่บ้าน 14 วัน แต่ก็ยังพบว่ากลุ่มคนดังกล่าวบางส่วนยังไปทานอาหารนอกบ้าน ยังไปทำกิจกรรมทางสังคม เพราะฉะนั้นจะมีการยกระดับให้บุคคลกลุ่มนี้ต้องเข้าสู่การควบคุมตามกฎหมาย จึงขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ส่วนผู้ที่เดินทางมาก่อนหน้านี้ และไม่มีไข้ ไม่มีอาการ เราก็จะติดตามคนกลุ่มนี้ เพราะเรามีรายชื่อยู่ เพื่อประสานและขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำ เฝ้าสังเกตอาการจนครบเวลา แต่หากเขามีไข้ก็จะถูกนำมาแยกในรพ.ทันที แต่เมื่อไม่มีไข้ก็จะติดตามทุกวัน
“ ทั้งหมดถือเป็นสำนึกความรับผิดชอบที่มีต่อสังคม ขณะเดียวกันก็เป็นความรับผิดชอบต่อสังคมที่จะไม่รังเกียจ ตีตรา หรือเลือกปฏิบัติ แต่หากกลุ่มคนดังกล่าวมีความจำเป็นต้องออกนอกบ้านจะต้องประสาน หรือรายงานเจ้าพนักงานควบคุมโรค หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายที่อยู่ในพื้นที่ เพื่อจะได้ย้ำวีปฏิบัติว่าต้องทำอย่างไร ทั้งสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ ขอย้ำว่าเราจะผ่านสถานการณ์โรคระบาดได้ต้องอาศัยความสำนึกรับผิดชอบของทุกคน” อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวและว่า ส่วนประกาศกระทรวงฯเรื่องประเทศเสี่ยงที่หากบุคคลใดเข้ามาต้องถูกเฝ้าสังเกตอาการนั้น ขอให้รอลงราชกิจจานุเบกษาในเร็วๆนี้
ราชกิจจาฯ ประกาศ " 4 ประเทศ" พื้นที่โรคติดต่ออันตราย
สด!!! สธ.แถลงความคืบหน้าโรคโควิด-19 ในประเทศไทย //www.pptvhd36.com/news/120724 #PPTVHD36 #ช่อง36 #โควิด19 #ไวรัสโคโรนา
โพสต์โดย PPTV HD 36 เมื่อ วันพุธที่ 4 มีนาคม 2020