บรรยากาศที่ ศาลจังหวัดกาญจนบุรีเมื่อวานนี้ ร้อยตำรวจโท จรูญ วิมูล หรือ หมวดจรูญ และภรรยา พร้อมด้วย นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความได้เดินทางมาฟังคำสั่งศาล กรณีนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา ยื่นอุทธรณ์ขอศาลอายัดเงินในบัญชีของหมวดจรูญ โดยศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาว่า การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งถอนอายัดเงินในบัญชีของหมวดจรูญถือเป็นอำนาจของศาลชั้นต้น ที่สามารถกระทำได้ ศาลอุทธรณ์จึงไม่รับวินิจฉัยและยกคำอุทธรณ์นี้ไป
ส่วนคำร้องที่บอกว่า กระบวนพิจารณาเพิกถอนคำสั่งอายัดเงินในบัญชีของหมวดจรูญ โดยศาลชั้นต้นนั้นเป็นกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบนั้น ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า แม้คดีนี้ จะเป็นคดีที่มีการจำหน่ายคดีออกไปแล้ว แต่เป็นการจำหน่ายคดีเพียงชั่วคราว ศาลชั้นต้นมีอำนาจที่จะหยิบยกมาวินิจฉัยได้ตามกฎหมาย การพิจารณาเพิกถอนคำสั่งอายัดเงินในบัญชีของหมวดจรูญ จึงถือเป็นสิ่งที่ศาลชั้นต้นมีอำนาจสามารถวินิจฉัยได้ ศาลอุทธรณ์ จึงมีคำสั่งยกอุทธรณ์ทั้ง 2 เรื่อง
ด้าน นายษิทรา เปิดเผยว่า หลังจากนี้ หมวดจรูญจึงมีสิทธิ์ในการใช้จ่ายเงินในบัญชีดังกล่าวอย่างถูกต้อง เนื่องจากการเพิกถอนคำสั่งอายัดเงินในบัญชีนั้น ถือเป็นคำสั่งที่ถูกต้องและชอบด้วยกฎหมาย ในส่วนของคดีหลัก ศาลได้มีการนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในวันที่ 25 มิถุนายนนี้ ซึ่งเมื่อศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาออกมาเรียบร้อยแล้ว และยังคงเป็นไปในแนวทางเดียวกับศาลชั้นต้น ฝ่ายตนก็จะได้ดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีกับพยานที่ขึ้นมาให้การไม่ตรงกับความเป็นจริงในฝั่งของครูปรีชาต่อไป
ด้านหมวดจรูญ บอกว่า หลังศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายกคำอุทธรณ์ของโจทก์ทั้ง 2 เรื่องเรียบร้อย ตนรู้สึกสบายใจขึ้นมาก ที่ผ่านมารู้ดีอยู่แก่ใจว่าข้อเท็จจริงในเรื่องนี้เป็นอย่างไร เมื่อศาลมีคำพิพากษาออกมาเช่นนี้ จึงรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก ส่วนเงินในบัญชี ที่ได้รับการเพิกถอนแล้ว ก็ยังไม่มีความคิดที่ว่าจะนำไปลงทุนใด ๆ คงจะต้องหารือกับครอบครัวต่อไป
"หมวดจรูญ" ปิดบัญชีธนาคาร 24ล้าน หลัง"ครูปรีชา"แฉเลขที่บัญชี